xs
xsm
sm
md
lg

1 ปี “อดุลย์”สีกากีเลือกข้าง อุ้มแม้ว-ทุบม็อบ-ปกป้องปู

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.
สน.พระอาทิตย์

แค่เพียง2 สัปดาห์ที่กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราออกมาชุมนุมเรียกร้องรัฐบาลแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำในหลายจังหวัดทั่วประเทศก็เกิดการปะทะกันขึ้นระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจถึง 2 ครั้ง 2 คราทั้งที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช และอ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์

จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมาก

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ใครผิดใครถูก ใครเริ่มก่อน ใครเริ่มหลัง เป็นข้อเท็จจริงที่ต้องพิสูจน์ตามพยานหลักฐานและดำเนินคดีกันไปตามตัวบทกฎหมายบ้านเมือง แต่สิ่งที่สังคมเกิดคำถามขึ้น คือ

มาตรฐานการรักษาความปลอดภัยและการดูแลการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในยุคที่มีพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว กุมบังเหียนผู้นำสีกากี เหมาะสมแล้วหรือไม่

การปิดถนน การปิดทางรถไฟเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลหันมาให้ความสนใจกับการชุมนุมประท้วงเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่การกระทำที่ผิดกฎหมายเพื่อวัตถุประสงค์เรียกร้องให้รัฐแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านร้ายแรงถึงขนาดต้องเข้าสลายการชุมนุม ร้ายแรงถึงขนาด

ต้องกระทืบผู้ชุมนุมใช้ไฟช็อตผู้ชุมนุม หรือใช้แก๊สนำตาสลายการชุมนุมเช่นนั้นหรือ

ภาพเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ชุมนุมถือเป็นเรื่องปกติในการชุมนุมแต่ละครั้งซึ่งหากใครกระทำผิดชนิดหนักหนาสาหัสเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

แต่ภาพที่ปรากฎขึ้นในการชุมนุมกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราที่อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ระหว่างการปะทะกันนั้น มีตำรวจนอกเครื่องแบบที่ทราบชื่อภายหลัง คือ ร.ต.ท.สุนันท์ ช่วยเกิด รองสารวัตรสืบสวนสอบสวนสภ.ร่อนพิบูลย์ แสดงพฤติกรรมรุนแรง ด้วยการกระทืบผู้ชุมนุมที่เสียหลักอยู่ร่องกลางสี่แยกที่มีการชุมนุมรวมทั้งภาพการใช้วัตถุคล้ายอุปกรณ์ช็อตไฟฟ้ากระแทกท้องผู้ชุมนุมที่ตกเป็นผู้ต้องหาภายหลังถูกควบคุมตัวไปสอบสวนดูจะสะท้อนการปฎิบัติหน้าที่ดูแลการชุมนุมตามหลักสากลที่พล.ต.อ.อดุลย์ประกาศไว้อย่างสิ้นเชิง

เช่นเดียวกับการสลายการชุมนุมกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 412-413 พื้นที่หมู่ 5 บ้านธรรมรัตน์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ที่มีการปิดเส้นทางสายเพชรเกษมทั้งขาขึ้นและขาล่องหลังคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ไม่ตอบรับข้อเรียกร้องกลุ่มผู้ชุมนุมจนเกิดการปะทะกันขึ้นอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่มีการใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุมทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ล้วนเกิดคำถามขึ้นว่าเจ้าหน้าที่กระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ เหตุใดไม่ใช้การเจรจาเหตุใดไม่ใช้น้ำสลายการชุมนุมสถานการณ์รุนแรงถึงขนาดต้องใช้กำลังกระนั้นหรือ

เหตุและผลการกระทำเช่นนี้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจพล.ต.อ.อดุลย์ ในฐานะผู้บังคับบัญญชา คงจะปฎิเสธความรับผิดชอบไม่ได้เพราะการตัดสินใจเข้าสลายการชุมนุมในแต่ละครั้งเชื่อว่าระดับปฏิบัติในพื้นที่ต้องรายงานให้ทราบทุกระยะ

แต่ที่บานปลายจนเลยเถิดจนมีผู้บาดเจ็บจำนวนมากก็เพราะแนวความคิดของตำรวจที่มองกลุ่มผู้ชุมนุมชาวสวนยางพารามีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ไม่ใช่เกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนที่แท้จริงอันเห็นได้จากหนังสือสั่งการของตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ระบุไว้ว่ากลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราที่ชุมนุม ก็คือกลุ่มหน้ากากขาวกลุ่มต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่ใช่เกษตรกรเพรียวๆการดำเนินการจึงเป็นอย่างที่เกิดขึ้น

ยิ่งย้อนดูพฤติกรรมของพล.ต.อ.อดุลย์บนเก้าอี้ผบ.ตร.ที่จะอยู่ครบ 1 ปี ในอีกไม่กี่วันข้างหน้ายิ่งสะท้อนให้เห็นว่าเหตุใดตำรวจถึงดำเนินการกับกลุ่มเกษตรกรสวนยางพาราที่ออกมาเรียกร้องความช่วยเหลือจากรัฐบาลเช่นนั้น

เริ่มตั้งแต่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินส่งหนังสือมาให้พิจารณากรณีพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนักโทษหนีคดีที่ดินรัชดา ประดับยศให้ พล.ต.อ.อดุลย์ก็ออกอาการพลิ้วในการดำเนินการและโยนเรื่องไปให้จเรตำรวจแห่งชาติพิจารณา ก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบไป

พอมีม็อบออกมาชุมนุมต่อต้านระบอบทักษิณและขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พล.ต.อ.อดุลย์ ก็เสนอรัฐบาลออกกฎหมายมาควบคุมจนม็อบไม่กล้าเคลื่อนไหว รวมทั้งยังให้ตำรวจโชว์ฝึกการควบคุมฝูงชนเหมือนส่งสัญญาณเป็นนัยยะเบรกการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุม

จากนั้นเมื่อปรากฏภาพนายขวัญชัยไพรพนา หรือขวัญชัย สารคำ ประธานชมรมคนรักอุดรแต่งกายเครื่องแบบตำรวจปราบจลาจล(ปจ.) ชุดสีกรมท่า ปักป้ายชื่อขวัญชัย สารคำอกเสื้อด้านขวาและอกเสื้อซ้าย ปักสังกัด บก.ภ.จว.อุดรธานีมาใส่บริเวณหน้ารัฐสภาพื้นที่ประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงฯวันที่มีการพิจารณาวาระร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมพล.ต.อ.อดุลย์ ก็นิ่งเฉยและไม่ดำเนินการใดๆ

เช่นเดียวกับปมร้อนการถอดยศพ.ต.ท.ทักษิณ ที่นายรักษเกชา แฉ่ฉาย รองเลขาธิการและโฆษกผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการตามคำร้องของนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ที่ขอให้พิจารณาสอบสวนการละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กรณีที่ไม่ดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาให้จำ คุก 2 ปีฐานทุจริตต่อหน้าที่ในคดีที่ดินรัชดาฯ

พล.ต.อ.อดุลย์ก็ไม่มีการหยิบเรื่องดังกล่าวที่ถูกซุกอยู่ในลิ้นชักออกมาดำเนินการตามขั้นตอน

มิหนำซ้ำนอกจากไม่ดำเนินการใดๆแล้ว พล.ต.อ. อดุลย์ ยังแหวกกฎ แหวกกติกา ด้วยการผลักดันพ.ต.ท.วทัญญู วัชรผโลทัย ผู้ช่วยนายเวร (ผู้ช่วยนว.) ของ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร.และเลขาฯ ป.ป.ส. ซึ่งเป็นหัวหน้าทีม รปภ.นายกฯยิ่งลักษณ์และอดีตรปภ.พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าโรงเรียนผู้กำกับการ(ผกก.)ทั้งๆที่ยังไม่ครบหลักเกณฑ์ และเมื่อพ.ต.ท.วทัญญู จบจากโรงเรียน ผกก.มาไม่กี่วันพล.ต.อ.อดุลย์ ก็แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ตำแหน่งเทียบเท่า ผกก. ยศพ.ต.อ. ทันที

หรือกรณีการโพสต์ข้อความต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์พล.ต.อ.อดุลย์ก็ไฟเขียวให้ประกาศจะตรวจสอบผู้ที่โพสต์ข้อความ หรือกดไลน์เนื้อหาต่างๆที่โจรตีรัฐบาลทั้งที่สังคมทั่วไปออกมาคัดค้านเพราะดูจะเป็นการลิดรอนสิทธิส่วนบุคคลมากเกินไปก็ตาม

ด้วยท่าทีผู้นำสีกากีเช่นนี้จึงไม่น่าแปลกใจพฤติกรรมตำรวจที่กระทำต่อกลุ่มต่างๆที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลเพราะเมื่อหัวส่ายเสียแล้ว ห่างกระดิกตามก็ไม่ใช่เรื่องแปลก..เอวัง
กำลังโหลดความคิดเห็น