“พงศพัศ” ลงพื้นที่หาข้อมูลยกเลิก “พืชกระท่อม” จากบัญชียาเสพติด

เลขาฯ ป.ป.ส.ลงพื้นที่หนองจอก รับฟังข้อมูลพืชใบกระท่อม เพื่อหาข้อสรุปก่อนนำเสนอ รมว.ยุติธรรมพิจารณาต่อไป ชาวบ้านยันเคี้ยวใบกระท่อมกันมา 10-20 ปี ทุกคนสุขภาพดีไม่เคยเจ็บป่วยอะไร

วันนี้ (4 ก.ย.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส.พร้อมคณะเดินทางมาที่ สน.ลำหิน เป็นการลงพื้นที่ในเขตหนองจอกเพื่อรับฟังข้อมูลจากประชาชนเกี่ยวกับใบ กระท่อม โดยมี พ.ต.อ.เอก เอกศาสตร์ รอง ผบก.น.3 ต้อนรับและบรรยายสภาพพื้นที่และสถิติการจับกุม จากนั้นได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 8/2 ม.9 แขวงคลอง 10 เขตหนองจอก ซึ่งเป็นบ้านของนายสมัย ป้อมขุนพรม อายุ 58 ปี ซึ่งเพิ่งจะถูกเจ้าหน้าที่จับกุมและตัดทำลายต้นกระท่อมที่มีอยู่จำนวน 2 ต้น เมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา เมื่อเดินทางมาถึงได้มีชาวบ้านราว 20 คนเดินทางมารอพบ

ทั้งนี้ พล.ต.อ.พงศพัศได้พูดคุยทำความเข้าใจกับกลุ่มชาวบ้าน พร้อมทั้งรับฟังข้อมูลการใช้ใบกระท่อมของชาวบ้าน โดยชาวบ้านยอมรับว่าต้องเคี้ยวใบกระท่อมก่อนจะออกไปทำงาน มิฉะนั้นจะไม่มีแรง และหากไม่ได้เคี้ยวจะมีอาการหงุดหงิด ซึ่งส่วนใหญ่เคี้ยวใบกระท่อมกันมา 10-20 ปี ทุกคนสุขภาพดีไม่เคยเจ็บป่วยอะไร

จากนั้น พล.ต.อ.พงศพัศเดินทางไปดูต้นกระท่อมของนายสมัยที่ทางเจ้าหน้าที่ตัดค้างเอาไว้ที่บริเวณหลังบ้าน พบเป็นต้นใหญ่สูงราว 5 เมตร ซึ่ง พล.ต.อ.พงศพัศได้ใช้เลื่อยเลื่อยต้นไม้ พร้อมกับให้ชาวบ้านช่วยกันดึงจนโค่นต้นกระท่อมลงได้

พล.ต.อ.พงศพัศเปิดเผยว่า วันนี้เป็นการลงพื้นที่เพื่อมาพบผู้ที่ใช้ใบกระท่อมในวิถีชีวิตประจำวันคือใช้ตั้งแต่เช้ายันเย็น เนื่องจากการแก้ไขกฎหมายเป็นเรื่องที่ต้องมีการ พิจารณาในหลายมิติ ซึ่งมิติในด้านวิชาการ และทางข้อกฎหมาย ทาง ป.ป.ส.มีเอกสารข้อมูลเยอะแล้ว แต่ในด้านวิถีชีวิตประจำวันอยากให้พูดคุยกันในลักษณะที่เห็นจริงๆ ซึ่งก็ได้ข้อมูลว่าการใช้ใบกระท่อมของชาวบ้านต้องใช้จริงๆ ไม่เช่นนั้นจะไม่มีแรงทำงาน และเป็นการใช้มาจากรุ่นสู่รุ่น ไม่ใช่เพิ่งมาใช้ ที่ดูจากสภาพร่างกายชาวบ้านก็พบว่าบางรายก็มีผลกระทบบ้างแต่บางรายก็ไม่มีผลอะไร ทั้งนี้ ทางพี่น้องประชาชนก็ฝากว่าอยากให้การเคี้ยวใบกระท่อมในชีวิตประจำวันก่อนจะออกไปทำงานไม่มีความผิด หรือหากผิดก็ให้มีโทษแค่ปรับไม่มีโทษจำคุก นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่าเด็กวัยรุ่นบางรายในชุมชนที่ติดยาบ้าก็หันมาใช้ใบกระท่อมแทนเพื่อเป็นการเลิกยาด้วย สำหรับข้อมูลที่ได้วันนี้จะได้นำเข้าที่ประชุมในวันที่ 5-6 ก.ย.นี้ เพื่อหาข้อสรุปก่อนจะได้นำเสนอ รมว.ยุติธรรม ให้พิจารณาต่อไป