ผบ.ตร.สั่งกำชับ ตร.ทุกนายในพื้นที่ที่มีการชุมนุมปิดทางสาธารณะ ของกลุ่มม็อบเกษตรกรชาวสวนยางพารา ใช้ความอดทนในการทำหน้าที่ เน้นเจรจากับผู้ชุมนุมเพื่อเปิดเส้นทาง เร่งลดความเดือดร้อนให้ประชาชนที่ต้องการสัญจรไปมา และหากพบการกระทำผิดของผู้ชุมนุม ตำรวจสามารถดำเนิคดีได้ทันที
วันนี้ (25 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากกรณีมีกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราชุมนุมเรียกร้อง เนื่องจากราคาผลผลิตตกต่ำ และมีการปิดถนน ที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อเนื่องจนถึงวันนี้ นั้น พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้ประชุมทางไกลกับ พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวานิช ผบช.ภ.8 และ พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช สั่งการกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ที่มีการชุมนุมปิดทางสาธารณะ ให้ใช้ความอดทนอดกลั้นในการปฏิบัติหน้าที่การดำเนินการให้เป็นไปตามหลักสากล เน้นการเจรจากับผู้ชุมนุมเพื่อเปิดเส้นทางการจราจร ลดความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้ได้รับความสะดวกสามารถใช้เส้นทางสัญจรไปมาได้ โดยเฉพาะพื้นที่ทางหลวงแผ่นดินที่เชื่อมโยงระหว่างจังหวัด รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนหาข่าว กรณีการปลุกระดมมวลชนของแกนนำ เพื่อป้องกันเหตุแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นมาได้
โฆษก ตร.กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ผบ.ตร.ยังได้สั่งการให้ ผบช.ภ.8 และ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ประสานงานและหารือร่วมกับฝ่ายปกครอง เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 อีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้ เพื่อร่วมกันบูรณาการการทำงาน ดูแลการชุมนุมให้เกิดความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน และกลุ่มผู้ชุมนุมเอง อย่างไรก็ตาม การกระทำการปิดกั้นทางหลวง หรือนำสิ่งใดมาขวางหรือวางบนถนนหลวง ในลักษณะที่เกิดอันตราย หรือเสียหายแก่ยานพาหนะ หรือบุคคล มีความผิดตาม พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ.2535 มาตรา 39 ซึ่งหากพบการกระทำผิดตำรวจสามารถดำเนิคดีได้ทันที