รถกระบะบรรทุกกล้วยหอมพุ่งชนท้ายรถพ่วงที่จอดเสียอยู่ข้างทางจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ที่บริเวณถนนพหลโยธินขาเข้ากรุงเทพฯ หลังเกิดเหตุคนขับรถกระบะอ้างมองไม่เห็น
เมื่อเวลา 01.20 น. วันนี้ (21 ส.ค.) ร.ต.ท.บุรินทร์ ทองก่อ ร้อยเวรสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้รับแจ้งเหตุมีรถกระบะชนท้ายรถพ่วง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บริเวณถนนพหลโยธินขาเข้ากรุงเทพฯ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ขอให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบช่วยเหลือด้วย หลังได้รับแจ้ง จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับ เจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลนครรังสิตอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ หมายเลขทะเบียน ต-1062 กทม.ที่บรรทุกกล้วยหอมมาเต็มคันรถ พุ่งชนกับท้ายรถพ่วงยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 71-0084 สมุทรปราการ ส่วนลูกพ่วงหมายเลขทะเบียน 71-0088 สมุทรปราการ ที่มีนายเมลี พัดเย็น อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 หมู่ที่ 31 ต.จิกเทิง อ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานี คนขับที่จอดเสียข้างทางเมื่อช่วงหัวค่ำ ยางและนอตล้อด้านหลังซ้ายหลุด เวลาประมาณ 21.00 น. ที่จอดในช่องทางด่วนด้านซ้าย มุ่งหน้าขาเข้ากรุงเทพฯ ที่ถูกรถกระบะชนเข้าทางด้านหลังขวา กระบะนั้นสภาพพังยับเยิน นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คนเป็นชาย 1 หญิง 1 ราย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพเทศบาลนครรังสิต เร่งนำร่างออกจากตัวรถ และนำส่งโรงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ (ศูนย์รังสิต) ทราบชื่อต่อมาคือ นายอานนท์ คำนวล อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 หมู่ที่ 5 ต.หนองสามวัง อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี และ น.ส.สุวิมล ทองหล่อ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/3 หมู่ที่ 3 ต.หนองสามวัง อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี
โดยนายอานนท์คนขับรถให้การว่า ได้ขับรถและบรรทุกกล้วยหอมมาจากย่านอำเภอหนองเสือ มาเต็มคัน เพื่อที่จะไปส่งให้ลูกค้าที่ตลาดมหานาคกรุงเทพฯ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมองไม่เห็นจึงชนเข้าอย่างจัง
ด้านนายเมลี พัดเย็น คนขับรถพ่วงกล่าวว่า ตนเองขับรถมาจากคลองหลวง และเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุก่อนรถกระบะเข้ามาชน ตนเองจอดเสียอยู่ตั้งแต่ 21.00 น.แล้ว ขณะช่างกำลังถอดล้ออยู่ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงโครมมาจากด้านท้ายรถจึงเดินไปดู พบว่ารถกระบะได้วิ่งมาชนท้ายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน เขต 1 (ศพฐ.1)เข้ามาตรวจสอบภายหลัง เพื่อที่จะได้สอบสวนข้อเท็จจริงว่าใครผิดใครถูกต่อไป