xs
xsm
sm
md
lg

“ธาริต” จ่อชงแพะสาวถูก ตร.ข่มขืนเข้าบอร์ดคดีพิเศษ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

กรมสอบสวนคดีพิเศษ จ่อชงคดีสาวร้องขอรื้อสอบสวนคดีตำรวจชุดสืบสวน สน.เพชรเกษม ข่มขืนในห้องสืบสวนเข้าสู่บอร์ดคณะกรรมการเพื่อขอรับทำเป็นคดีพิเศษ

วันนี้ (14 ส.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีเอสไอ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองอธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย ร.อ.กลวิตร บุญนาค ผอ.ส่วนประจำสำนักปฏิบัติการพิเศษภาค ดีเอสไอ แถลงความคืบหน้ากรณีที่ นางสายนภา แอ๊ดมา ร้องขอให้ทำการสอบสวนคดีใหม่ เนื่องจากสามีและพวกซึ่งเป็นตำรวจชุดสืบสวน สน.เพชรเกษม ถูกกล่าวหาว่าได้ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้ต้องหาหญิงในห้องสืบสวน

ร.อ.กลวิตร กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อคืนวันที่ 14 ม.ค.50 ตำรวจชุดสืบสวน สน.เพชรเกษม จำนวน 5 นาย และสายลับอีก 2 คน ทำการจับกุมผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติด ซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุ 17 ปี ซึ่งตอนหลังผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ซัดทอดว่าตำรวจ 2 นาย กระทำชำเราข่มขืนใน สน.เพชรเกษม และขณะนี้ศาลชั้นต้นได้สั่งจำคุก 20 ปี อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอได้ดำเนินการสืบสวนจนได้หลักฐานชัดเจนว่ากรณีตำรวจทั้ง 2 นายนั้น เป็นผู้บริสุทธิ์ โดยเด็กหญิงที่กล่าวหาตำรวจได้กลับคำให้การและสารภาพว่าที่ทำไปนั้น เนื่องจากมารดาเป็นผู้บังคับให้ทำ เพื่อต้องการที่จะกลับบ้านเร็ว เลยทำการซัดทอดว่าถูกตำรวจข่มขืน

สำหรับกรณีที่ นางเสนาะ สิงคิ ที่ได้ร้องขอให้ทำการสอบสวนคดีใหม่ เนื่องจากนายพัสกร สิงคิ (บุตรชาย) และ นายชัชพงษ์ สิงคิ (น้องชาย) ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี จับกุมในข้อหาใช้อาวุธปืนยิง นายพตต์ เกิดผล เสียชีวิต เมื่อวันที่ 24 มี.ค.51 ซึ่งข้อเท็จจริงบุคคลทั้ง 2 ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้แต่อย่างใด

ผอ.ส่วนประจำสำนักปฏิบัติการพิเศษภาค กล่าวว่า ในคดีนี้ นายพัสกร ถูกจับกุมอยู่ในข้อหายิงผู้อื่นเสียชีวิต ทั้งนี้ นายพัสกร เป็นผู้พิการทางหู และศาลชั้นต้นได้ตัดสินให้จำคุก 20 ปี และจากการที่ดีเอสไอได้ทำการสอบสวนต่อมาพบว่ามีพยานได้เห็นจำเลยตัวจริง ซึ่งขณะนี้ถูกจำคุกอยู่ที่ จ.สิงห์บุรี ในคดียาเสพติด โดยชุดสืบสวนของดีเอสไอได้เข้าไปทำการสอบสวนจำเลยในเรือนจำ พร้อมกับอัดวิดีโอซึ่งผู้ต้องหาตัวจริงก็ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนยิง

อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 กรณีทางดีเอสไอได้ช่วยให้ญาติของผู้ต้องหาให้ไปยื่นร้องขอความช่วยเหลือจากกรมคุ้มครองสิทธิ ซึ่งเข้าข่ายโดยการที่ดีเอสไอยื่นพยานและหลักฐานใหม่ และกองทุนยุติธรรมต้องให้ความช่วยเหลือ เนื่องจากผลการสืบสวนใหม่พบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 กรณี เป็นผู้บริสุทธิ์ที่ถูกใส่ร้ายและเป็นผู้ยากไร้ ทั้งนี้กองทุนยุติธรรมได้อนุมัติเงินรายละ 2 ล้านบาท และดีเอสไอได้ไปยื่นต่อศาลเพื่อประกันตัวผู้บริสุทธิ์ที่ถูกกล่าวหา ผลปรากฏว่าศาลไม่มีการปล่อยตัวผู้ต้องหาชั่วคราว เนื่องจากเป็นคดีที่มีโทษสูง และเกรงว่าผู้ต้องหาอาจหลบหนี

นางเสนาะ กล่าวทั้งน้ำตาว่าอยากให้ดีเอสไอรับกรณีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ จะได้จับคนร้ายตัวจริง เพราะลูกชายไม่ได้ทำความผิด แต่ติดคุกมา 3 ปีกว่า ยื่นประกันตัวต่อศาลก็ไม่เป็นผล ซึ่งตนกลัวว่าจะเครียดแล้วจะทำร้ายตัวเอง และถ้าเป็นอะไรขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ

นายธาริต กล่าวว่า เมื่อมีการร้องขอแต่คดีนี้ไม่ใช่คดีพิเศษ ซึ่งเป็นหน้าที่ของบอร์ดคณะกรรมการคดีพิเศษ ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 28 ส.ค.นี้ และตนในฐานะคณะกรรมการและเลขาธิการของบอร์ดจะนำเรื่องนี้ไปเสนอเข้าบอร์ดคณะกรรมการคดีพิเศษ ทั้งนี้ตนไม่สามารถรับปากในขณะนี้ว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น