ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย เตรียมกำลังพล 32 กองร้อย ดูแลสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุม ยันมีรายงานข่าวเคลื่อนพลบุกประชิดรัฐสภาพรุ่งนี้ ขู่ระวังมือที่สามป่วนสร้างสถานการณ์
วันนี้ (6 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) แถลงภายหลัง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผอ.ศอ.รส.เป็นประธานการประชุมร่วมกับตัวแทนจาก 18 หน่วยงาน ว่า ศอ.รส.ได้มีการชี้แจงถึงแผนการรักษาความปลอดภัยการชุมนุมในวันพรุ่งนี้ โดยล่าสุด จะมีการใช้กำลังตำรวจทั้งหมด 32 กองร้อย สั่งระดมเพิ่มจากเดิมที่มี 25 กองร้อย มาอีก 7 กองร้อย เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย โดยใช้กำลังตำรวจเป็นหลัก แต่ได้ประสานทุกเหล่าทัพ รวมทั้ง กทม.และมหาดไทย เตรียมกำลังสนับสนุนตลอดเวลา หากมีการร้องขอ โดยขอให้ทุกเหล่าทัพพร้อมประสานงาน 24 ชั่วโมง ตั้งแต่คืนนี้
ทั้งนี้ การข่าวของหน่วยงานด้านความมั่นคง ทั้ง ศอ.รส. สภาความมั่นคงแห่งชาติ และสำนักข่าวกรองตรงกันว่า จะมีการระดมมวลชนทุกวิถีทาง จากทุกเวทีก่อนเคลื่อนไปที่หน้ารัฐสภาในวันพรุ่งนี้ และมีแนวโน้มจะยั่วยุให้เจ้าหน้าที่ให้ใช้กำลัง ตลอดจนขัดขวางทางเข้า-ออกรัฐสภา ไม่ให้มีการประชุมสภาได้ จึงได้เตรียมแผนการฉุกเฉิน และทางเข้า-ออกสำรองเรียบร้อยแล้ว ส่วนกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาล พบว่า จะออกมาเคลื่อนไหวบางส่วน นอกเขตประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ซึ่งตำรวจจะตั้งด่านตรวจตราอาวุธอย่างเข้มงวด พร้อมย้ำว่า ตำรวจจะรักษาความปลอดภัยเขตพระราชฐาน ทำเนียบรัฐบาล และรัฐสภา อย่างเต็มที่ เพื่อให้การประชุมสภา สามารถดำเนินการต่อไปได้ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย อย่างไรก็ตามผู้ชุมนุมเข้าในพื้นที่บริเวณรัฐสภาไม่ได้เด็ดขาด เพราะเป็นพื้นที่ห้ามตาม พ.ร.บ.มั่นคง และการกีดขวางการร่วมประชุมสภา หากทำการล่วงละเมิดประกาศตาม พ.ร.บ.มั่นคง ก็ถือเป็นความผิด
โฆษก ศอ.รส.กล่าวว่า ส่วนการชุมนุมจะยืดเยื้อหรือไม่ ศอ.รส.จะพิจารณาจากสถานการณ์ในวันพรุ่งนี้เป็นหลัก ก่อนปรับกำลังให้เหมาะสมกับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม ศอ.รส.ห่วงการสร้างสถานการณ์ของมือที่ 2 มือที่ 3 ที่จะทำให้เกิดเงื่อนไขความรุนแรงก่อนการชุมนุมพรุ่งนี้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ศอ.รส.เตรียมพร้อมป้องกัน และเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ในช่วงชุมนุม ก็ได้ประสาน กทม. การไฟฟ้าฯ การประปา ประสานน้ำไฟสำรองป้องกันเหตุฉุกเฉินและเตรียมรถสุขาเพื่อรองรับผู้ชุมนุมด้วย ยืนยันว่าการชุมนุมนอกเขตพื้นที่ประกาศห้ามนั้น สามารถทำได้ตามสิทธิ และไม่มีการสกัดกั้นผู้มาร่วมชุมนุมแต่อย่างใด สามารถเดินทางเข้ามาได้ เพียงแต่ต้องไปละเมิด พ.ร.บ.ความมั่นคง ทั้งนี้การข่าวยังไม่พบว่าผู้ชุมนุมที่เห็นต่างกันจะเผชิญหน้ากัน แต่ตำรวจก็ระมัดระวังมีแผนป้องกัน สำหรับการขอศาลถอนประกันแกนนำผู้ชุมนุมกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นล้มระบอบทักษิณนั้น หลังตรวจพบแกนนำ 2 คน อยู่ระหว่างการประกันศาล และกลับมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ตำรวจซึ่งมีหน้าที่ทำตามกฎหมาย เมื่อเห็นคนทำผิดก็ต้องดำเนินการ ไม่คิดว่าเป็นการสร้างเงื่อนไข