ดีเอสไอบุกทลายแหล่งผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางปลอมเครื่องหมายการค้า ย่านลำลูกกา 2จุด มูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 17 ก.ค. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผบ.สำนักคดีพิเศษภาค พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชินโชติ พุฒิวรรธธาดา ผบ.สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา นางกรรณิกา ริมโพธิ์เงิน และนายจักราคม ลิ่วมโนมนต์ รอง ผบ.สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา พ.ต.ท.สุมิตร ชโนวิทย์ ผอ.ส่วนคดีทรัพย์สินทางปัญญา 1 ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจค้นจับกุมแหล่งเก็บและจำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องสำอางปลอมเครื่องหมายการค้า โดยเสนอขายผ่านทางเว็บไซต์ทางอินเทอร์เน็ต
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ก.ค. เวลา 10.00 น. อธิบดีดีเอสไอมอบหมายให้ พ.ต.ท.ชินโชติ พุฒิวรรธธาดา ผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา พ.ต.ท.สุมิตร ชโนวิทย์ ผู้อำนวยการส่วนคดีทรัพย์สินทางปัญญา 1 และเจ้าหน้าที่สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา นำหมายค้นของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางเข้าทำการตรวจค้นบ้านพักต้องสงสัยเป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางปลอมเครื่องหมายการค้า รวม 2 จุด โดยจุดแรกเป็นบ้านเลขที่ 802/259 หมู่บ้านวังทอง ริเวอร์ ปาร์ค ซอยปาร์ค 11/6 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และจุดที่ 2 คือ 205 หมู่ที่ 1 ซอยข้างโรงเรียนบริบูรณ์ศิลป์ศึกษา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร
จากการตรวจค้นในจุดแรกพบเครื่องบรรจุเครื่องสำอางลงในหลอด ครีมบำรุงผิวที่ยังไม่ได้บรรจุลงหลอดและที่บรรจุลงหลอดแล้วพร้อมกล่องกระดาษ ฉลากสินค้าจำนวนมาก ส่วนจุดที่ 2 พบสินค้าประเภทน้ำหอมและเครื่องสำอางปลอมเครื่องหมายการค้ายี่ห้อต่างๆ หลายรายการ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท จึงได้จับกุมตัวนายอภินันท์ สระทองแพ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านมาดำเนินคดีในข้อหา จำหน่าย เสนอจำหน่าย และมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักร ผลิตเครื่องสำอางโดยไม่แจ้งการผลิต และ ขายสินค้าควบคุมฉลากโดยการแสดงฉลากที่ไม่ถูกต้อง โดยผู้ต้องหาได้ขายสินค้าจำพวกเครื่องสำอางผ่านทางเว็บไซต์ www.7-intrend.com และมีเงินหมุนเวียนในบัญชีเดือนละหลายแสนบาท
อย่างไรก็ตาม ในการตรวจค้นจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญาที่ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ (NICE) และกรมสอบสวนคดีพิเศษที่มีนโยบายในการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีความซับซ้อนยากต่อการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิด และมีการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น โดยจะได้ดำเนินการสืบสวนอย่างจริงจังและเด็ดขาดต่อไป