ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยผลตรวจดีเอ็นเอเป็นแม่ลูกกันจริง สาวที่อ้างว่าถูก “โล้นคำ” ข่มขืนจนมีลูกด้วยกัน ด้านทนายอาสาจ่อยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัว 18 พ.ค.นี้ กรณีค่าเลี้ยงดูเด็กชายที่ น.ส.เออ้างเป็นบุตรโล้นคำ ชี้ศาลเยาวชนสามารถสั่งในคดีแพ่งให้ตรวจดีเอ็นเอจากพ่อแม่สมีคำได้
เมื่อวันที่ 15 ก.ค. พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ผบ.สำนักคดีความมั่นคง ดีเอสไอ กล่าวถึงแนวทางการอายัดทรัพย์สินของนายวิรพลว่า การตรวจสอบและอายัดทรัพย์สินของนายวิรพลจะใช้อำนาจของเจ้าพนักงาน ปปง.ในการตรวจสอบพร้อมอายัดบัญชีธนาคารทั้งหมด ซึ่งจะมีการนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรมในวันที่ 19 ก.ค. ขณะเดียวกัน ดีเอสไอใช้อำนาจของพนักงานสอบสวนเข้าตรวจสอบทรัพย์สินทั้งรถยนต์ บ้าน และที่ดิน ทั้งหมด ซึ่งภายในอาทิตย์หน้าดีเอสไอจะลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานีอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินของนายวิรพลว่ามีอะไรบ้าง หรือมีทรัพย์ส่วนใดที่ได้จากการกระทำความผิดหรือน่าเชื่อว่าได้จากการกระทำความผิดจะอายัดไว้ทั้งหมด โดยการจะอายัดทรัพย์สินที่เกิดจากการหลอกลวงประชาชนด้วยการแสดงปาฏิหาริย์ อวดอิทธิฤทธิ์ ต้องให้มีผู้เสียหายออกมาแสดงตัวว่าที่ได้บริจาคเงินหรือทรัพย์สินไป เพราะหลงเชื่อหลังถูกหลอกลวงจนเชื่อถือศรัทธาจึงบริจาคทรัพย์สิน ก็จะอายัดทรัพย์สินในส่วนนี้ได้ ทั้งนี้อยากให้ผู้เสียหายแสดงตัวเพื่อจะมีประโยชน์ตอนเฉลี่ยคืนทรัพย์สิน เพราะสุดท้ายหากเป็นทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดก็จะอายัดคืนทั้งหมด
พ.ท.นพ.เอนก ยมจินดา ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า ผลการตรวจดีเอ็นเอของ น.ส.เอ(นามสมมติ) อายุ 26 ปี กับลูกเด็กชายอายุ 11 ปี ปรากฏว่ามีดีเอ็นเอตรงกัน คือเป็นแม่ลูกกันจริง แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเด็กชายคนดังกล่าวเป็นลูกอดีตหลวงปู่เณรคำหรือไม่ คงต้องรอให้ทนายอาสาของศูนย์ช่วยเหลือประชาชนดีเอสไอเดินทางไปยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวที่ จ.ศรีสะเกษ ในวันที่ 18 พ.ค.นี้ ในกรณีของค่าเลี้ยงดูเด็กชายคนดังกล่าวจากบิดา ซึ่งศาลเยาวชนจะสามารถสั่งในคดีแพ่งให้ตรวจดีเอ็นเอจากพ่อแม่ของบิดาของเด็กได้