เกิดเหตเพลิงไหม้ สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี สิบเวร และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังปฏิบัติหน้าที่รวม 5 นาย ต่างหนีตายเอาตัวรอด ทำให้ผู้ต้องหาที่ถูกคุมขังเสียชัวิตทั้งหมด 4 ราย ทำให้ญาติผู้ต้องหาที่เสียชีวิตต่างแสดงความโกรธแค้น บางรายเข้ารุมทำร้าย จนท. เบื้องต้นสันนิษฐานหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด ผบช.ภ.1 สั่งตั้งคณะกรรมการสอบ จนท.ที่กำลังปฎิบัติระหว่างเกิดเหตุ
วันนี้ (7 ก.ค.) เกิดเหตุไฟไหม้ สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี โดยต้นเพลิงอยู่บริเวณด้านหลังของชั้น 2 และลุกลามมายังบริเวณชั้นล่าง ซึ่งเป็นห้องเก็บวัสดุติดกับห้องผู้ต้องขัง เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถน้ำดับเพลิงเกือบ 10 คัน เข้ามาระงับเหตุนานประมาณ 3 ชม. เพลิงจึงสงบ
พ.ต.อ.ศุภากร ผิวอ่อน ผกก.สภ.ไทรน้อย เปิดเผยว่า หลังเหตุการณ์สงบได้เข้าไปตรวจสอบสภาพความเสียหาย พบผู้ต้องหาชายเสียชีวิตทั้งหมด 4 ราย ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากหม้อแปลงไฟฟ้าของ สภ.ไทรน้อย ระเบิด แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้ามาตรวจสอบสาเหตุ และความเสียหายอย่างละเอียดอีกครั้ง
ต่อมา ช่วงเช้า ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้ต้องหาที่เสียชีวิตทั้ง 4 ราย ทราบชื่อนายวิสูตร คงยืน ผู้ต้องหาคดียาเสพติด นายเจิด สรงภู่ ผู้ต้องหาคดี พ.ร.บ.อาวุธปืน นายวสันต์ ศรศิลป์ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาคดีเมาสุราอาละวาด และนายณจิรพงศ์ วงศ์อนันต์ ญาติๆ ได้เดินทางมาดูสภาพศพของผู้เสียชีวิต พร้อมด้วยชาวบ้านกว่า 50 คน โดยทั้งหมดเรียกร้องให้ตำรวจรับผิดชอบพร้อมทั้งด่าทอต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจนเกิดเหตุชุลมุนขึ้นนานกว่า 20 นาที ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด ญาติบางคนที่เป็นผู้ชายวัยรุ่นที่สูญเสียพ่อถึงกับกระโดดเข้าชกต่อยตำรวจ ส่วนที่เป็นหญิงบางรายก็ต่างเป็นลมล้มฟุบ
จนกระทั่งทาง พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผวจ.นนทบุรี ได้เชิญญาติของผู้ต้องหาที่เสียชีวิตเข้าพบปรึกษาหารือ พร้อมทั้งรับปากว่าจะตั้งกรรมการขึ้นสอบสวนข้อเท็จจริง และเยียวยาช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตต่อไป ซึ่งทางญาติผู้เสียชีวิตต่างก็ยังโกรธแค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปล่อยให้ผู้ต้องหาเสียชีวิตในครั้งนี้ และยังคงจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจกันอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ มีรายงานว่าขณะเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าเวรอยู่ภายในโรงพัก 5 คน โดยผู้มีหน้าที่ควบคุมห้องคุมขัง ได้รายงานให้กับทางนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่รุดไปสอบสวนว่า ขณะไฟไหม้รู้สึกตกใจ จึงรีบวิ่งหนีตายออกมาภายนอก โดยลืมคิดว่ามีผู้ต้องหายังอยู่ภายในห้องขัง
ด้าน พล.ต.ท.นเรศ กล่าวว่า ได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้น 2 ชุด โดยชุดแรก เป็นการสอบสวนตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าเวรได้ให้การช่วยเหลือ หรือระงับเหตุเพียงใด เพื่อเป็นข้อมูลในการกำหนดโทษทางวินัยผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป ส่วนอีกชุดหนึ่งนั้นมี ผวจ. ร่วมเป็นกรรมการสอบสวนด้วย โดยจะมุ่งเน้นเรื่องการสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมด และการเยียวยาผู้ตาย
“สาเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเบื้องต้นที่สอบถามสิบเวรที่เข้าเวรช่วงนั้น ว่า เกิดเหตุหม้อแปลงระเบิดและไฟดับทำให้มืดมาก สิบเวรจึงหนีตายเอาตัวรอด จนลืมว่ามีผู้ต้องหาอยู่ในห้องขัง เมื่อจะเข้าไปช่วยก็มีแสงเพลิง และควันจำนวนมากจนเข้าไปไม่ได้แล้ว และผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่จะสำลักควันจนเสียชีวิตทั้งหมด” ผบช.1กล่าว