รวบยกแก๊งคอลเซ็นเตอร์แดนมังกรหลอกตุ๋นเหยื่อโอนเงิน

ทางการจีนจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใหญ่ที่ไปตั้งตัวอยู่ในประเทศจีนส่งกลับให้ไทยดำเนินคดี 15 ราย ผู้ต้องหาชาวไทยร่วมแก๊งสารภาพได้รับจ้างจากหัวหน้าแก๊งชาวไต้หวันให้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่แบงก์ชาติตรวจสอบข้อมูลหนี้สินหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชี

เมื่อเวลา 02.30 น.วันนี้ (21 มิ.ย.) ที่อาคารผู้โดยสารขาเข้าประเทศ ประตูทางออก 1 สนามบินดอนเมือง พ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง รอง ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย ผกก.5 บก.ปอศ.และเจ้าหน้าที่ บก.ปอท.เดินทางมารับตัวผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากประเทศจีน จำนวน 15 คน ซึ่งผู้ต้องหาดังกล่าวถูกจับกุมและส่งตัวมาจากประเทศจีนเพื่อดำเนินคดีในประเทศไทย

พ.ต.อ.กิตติกล่าวว่า สืบเนื่องจาก ปอศ.ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรศัพท์ไปหลอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากธนาคารกลางแห่งประเทศไทย โดยหลอกว่าเป็นหนี้ต้องจ่ายโดยการโอนเงิน ก่อนสืบทราบว่าแก๊งดังกล่าวมีฐานอยู่ที่ประเทศจีน จึงได้มีการวางแผนจับกุมแก๊งดังกล่าวโดยติดตามดูพฤติกรรมมานานกว่า 1 ปี และได้มีการประสานข้อมูลกับทางตำรวจประเทศจีนจนสามารถติดตามจับกุมได้ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 19 คน เป็นชาวจีน 4 คน ชาวไทย 15 คน

พ.ต.อ.กิตติกล่าวต่ออีกว่า จากการสอบสวนทราบว่า แก๊งดังกล่าวมีนายฉิง เกอ ชาวไต้หวัน เป็นหัวหน้าแก๊ง โดยมีคนไทยคอยทำหน้าที่หลอกเหยื่อได้ค่าจ้างเดือนละ 10,000-12,000 บาท บวกค่าคอมมิชชันจากการยอดเงินที่หลอกได้ 3-7เปอร์เซ็นต์ จากการตรวจสอบหลักฐานเบื้องต้น พบว่ามูลค่าความเสียหายนับตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน อยู่ที่ประมาณ 20 ล้านบาท ส่วนผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นคนไทย

ด้าน น.ส.สุปราณี ผู้ต้องหาให้การว่าตนเป็นคนจังหวัดเลย อยู่ อ.เอราวัณ เพิ่งเข้ามาทำงานกับแก๊งนี้ได้ 1 เดือน โดยมีคนรู้จักเป็นคนหมู่บ้านเดียวกันชวนมาทำ โดยไม่ต้องเสียค่านายหน้า ซึ่งจะมีการสอนให้พูดตามสคริปต์ที่ตั้งเอาไว้ โดยหลอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากธนาคารแห่งประเทศไทย โทรศัพท์ไปแจ้งเรื่องหนี้สิน มีหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สิน และเส้นทางการเงิน ได้ค่าจ้างเดือนละ 10,000 บาท และได้ค่าคอมมิชชัน 3 เปอร์เซ็นต์ และทำมาแล้ว 2 ครั้ง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปควบคุมตัวที่ ปอศ. ก่อนจะมีการแถลงข่าวในช่วงเวลา 10.00 น.พรุ่งนี้ และนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดดำเนินคดีต่อไป