xs
xsm
sm
md
lg

ศปทส.บุกค้นบ้านส่งออกปลา-นก ไม่พบเสือโคร่ง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พ.ต.อ.มนตรี ยิ้มแย้ม รอง ผบก.ผอ.สยศ. พร้อมด้วย พ.ต.ท.วีระชีพ ช.ชมเมือง สว.กลุ่มงานกิจกรรมการพิเศษ ผก.สยศ. นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกันนำกำลังเข้าตรวจค้นการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ศปทส.ร่วมกับกรมอุทยานฯ บุกค้นบ้านลักลอบเลี้ยงนกและปลาสวยงามส่งออก หลังได้รับการร้องเรียน แต่ไม่พบเสือโคร่ง เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหา กระทำผิดผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ไว้ก่อน เพื่อประสานไซเตสและกระทรวงเกษตรฯ มาตรวจสอบอีกครั้ง

วันนี้ (18 มิ.ย.) พ.ต.อ.มนตรี ยิ้มแย้ม รอง ผบก.ผอ.สยศ. พร้อมด้วย พ.ต.ท.วีระชีพ
ช.ชมเมือง สว.กลุ่มงานกิจกรรมการพิเศษ ผก.สยศ. นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รอง
อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกันนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ชป.ศปทส.ตร.) และเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมนำหมายศาลจังหวัดสมุทรปราการ เลขที่ 842/2556, 844/2556 ลงวันที่ 18 มิ.ย. 56 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 40/202-203 หมู่ 10 ซอยรัตนธานี 9 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และหมายศาลจังหวัดสมุทรปราการ เลขที่ 843/2556 บ้านเลขที่ 40/205 หมู่ 10 ซอย รัตนธานี 9 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังจากได้รับแจ้งว่ามีการลักลอบเลี้ยงสัตว์ป่าสงวน

ตรวจสอบพบบ้านเลขที่ 40/202-203 พบบ่อเพาะพันธุ์สัตว์น้ำกว่าร้อยชนิด รวมไปถึงปลากระเบน นอกจากนี้ยังพบกรงนกขนาดใหญ่ภายในมีนกเงือกจำนวน 2 ตัวถูกเลี้ยงไว้ ทางจ้าหน้าที่จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ทราบภายหลังเป็นของนายสุรินทร์ อาภารัตน์วิไล อายุ 63 ปี เป็นเจ้าของ ให้การว่า ตนได้เพาะเลี้ยงปลาเพื่อส่งออกเป็นเวลา 40 ปี เป็นกิจการของครอบครัว ทำมาตั้งแต่รุ่นพี่สาว ส่วนมากเป็นปลาส่งออกประเภทสวยงาม ส่วนใหญ่ส่งออกไปให้ประเทศญี่ปุ่น จำพวกปลากระเบน ปลากัด ปลาลิ้นหมา ตะพาบ และกุ้ง ปู เลี้ยงสวยงามซึ่งเป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่น โดยส่งออกในนามของบริษัท เอส แอนด์ พี อควอเลี่ยม จำกัด (มหาชน) ส่วนนกเงือกตนเลี้ยงไว้นานหลายปีแล้ว โดยมีใบอนุญาตถูกต้องทุกอย่าง

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบบ้านเลขที่ 40/205 ภายในมีเนื้อที่ 2 ไร่ ซึ่งมีการเลี้ยงนกสวยงามหลากหลายพันธุ์เลี้ยงไว้ในกรงกว่า 30 กรง นอกจากจากนี้ยังพบกรงต้องสงสัยขนาดใหญ่ ซึ่งถูกรื้อถอนจนหมดกองเป็นเศษเหล็กวางไว้บริเวณใกล้ประตูบ้าน ทั้งนี้ยังพบนกกรงหัวจุก จำนวน 6 ตัว นกคุ่ม 6 ตัว และนกกระทาไฟ 2 ตัว จากการตรวจสอบสามารถควบคุมตัวนาย สุรพล ภูผาลี อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าว

จากการสอบสวนทราบว่า บ้านหลังนี้เป็นของนายทองสุข จูประจักษ์ อายุ 70 ปี เป็นพี่ชายของนายสุรินทร์ บ้านหลังก่อนหน้านี้และเป็นเจ้าของสัตว์ภายในบ้านทั้งหมด ซึ่งตนเองทำหน้าที่เป็นเลี้ยงดูสัตว์ภายในบ้าน ได้ค่าจ้างวันละ 300 บาท โดยทำงานที่นี่มากว่า 30 ปีแล้ว ส่วนใหญ่เป็นคนคอยให้อาหารสัตว์และเลี้ยงดู ซึ่งนกทุกตัวเจ้านายตนเลี้ยงไว้ขายให้กับชาวไทยและต่างชาติที่ชื่นชอบนกสวยงาม

นายสุรพลกล่าวอีกว่า ซากกรงเหล็กขนาดใหญ่ที่พบนั้นเป็นกรงเลี้ยงเสื้อโคร่งที่นายทองสุขเลี้ยงไว้จำนวน 3 ตัว แล้วตายไปทั้งหมดแล้วเมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา จากนั้นเมื่อไม่นานมานี้เจ้านายของตนเห็นว่าปล่อยกรงทิ้งไว้เฉยๆ จึงสั่งให้รื้อถอนออกไป ส่วนนกกรงหัวจุก นกคุ่ม และนกกระทาเป็นของตนได้มาจากน้องชายที่ใต้ เลี้ยงไว้ดูเล่น ไม่คิดว่าจะเป็นสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด

นายธีรภัทรเปิดเผยว่า วันนี้ได้เดินทางมาตรวจสอบในครั้งนี้สืบเนื่องจากได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปทส.ตร.ให้มาร่วมตรวจสอบหลังจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าบ้านหลังดังกล่าวได้มีการลักลอบเลี้ยงสัตว์สงวนโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่ามีสัตว์ป่าที่ผิด พ.ร.บ.คุ้มครอง พ.ศ. 2535 คือ นกกระทาไฟ 2 ตัว นกกรงหัวจุก 6 ตัว และนกคุ่ม 6 ตัว ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งอีกว่าพื้นที่ตรงนี้มีการลักลอบเลี้ยงเสือโคร่งอีกด้วย แต่จากการตรวจสอบแล้วพบว่ามีใบอนุญาตคุ้มครองอย่างถูกต้อง ซึ่งออกเมื่อ พ.ศ. 2546 แต่ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบไม่พบเสือโคร่ง จึงต้องทำการขอการยกเลิกใบอนุญาตดังกล่าว เนื่องจากสถานสถานที่นี้ไม่มีการเลี้ยงเสือโคร่งแล้ว ส่วนนกแก้วมาคอว์พบว่ามีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง จึงขอประชาสัมพันธ์สำหรับผู้ที่เลี้ยงนกชนิดดังกล่าวให้จัดพื้นที่ปรับปรุงให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้มีผลกระทบประชาชนบ้านใกล้เรือนเคียงให้ได้รับความเดือดร้อนอีกต่อไป

ด้าน พ.ต.ท.วีระชีพกล่าวว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ต่อนายสุรพลไว้ก่อน ส่วนจากการตรวจสอบบ้านหลังแรกทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาตรวจสอบสัตว์น้ำต้องสงสัย ส่วนบ้านหลังที่ 2 ทางเจ้าหน้าที่จะทำการสอบปากคำเจ้าของบ้านและประสานให้เจ้าหน้าที่ไซเตสและกรมอุทยานแห่งชาติฯ ทำการตรวจสอบสัตว์ที่เลี้ยงไว้อย่างละเอียดอีกครั้ง
















กำลังโหลดความคิดเห็น