“ทนายสุวัตร” เผยได้ข่าวตำรวจจับตัว “ไอ้เบิ้ม” มือฆ่ารัดคอ “เอกยุทธ” ได้แล้ว ซัด “เหลิม” ขี้ข้าทักษิณไม่มีน้ำหนักความน่าเชื่อถือที่ออกมายืนยัน “เอกยุทธ” ถูกฆ่าชิงทรัพย์ รอรวบรวมพยานหลักฐาน ชี้ “เครื่องบันทึกกล้องวงจรปิด” กุญแจสำคัญแต่ตำรวจกลับเมินเฉย เตรียมตรวจสอบระบบภายในหาข้อมูลทางโทรศัพท์ เผยญาติเอกยุทธอยู่ในอาการหวาดกลัวเป็นอย่างมาก!
วันนี้ (13 มิ.ย.) นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร อดีตนักธุรกิจชื่อดังที่ถูกอุ้มฆ่าหมกศพอำพรางคดี เปิดเผยว่า นายเอกยุทธถูกฆาตกรรมจริงตามที่ตนได้ออกมาให้ข้อมูลล่วงหน้าว่านายเอกยุทธได้หนีลงมาจากรถตู้บริเวณถนนลาดพร้าว ช่วงเวลาประมาณ 19.00 น.ของวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางตำรวจกำลังพยายามที่จะสรุปและปิดคดีว่าเป็นการฆ่าชิงทรัพย์นั้น ตนไม่เชื่อโดยเด็ดขาด เพราะพฤติการณ์นายสันติภาพ เพ็งด้วง ผู้ต้องหา ไม่สามารถกระทำเองได้คนเดียวอย่างแน่นอน ทราบว่าเมื่อคืนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุม “นายเบิ้ม” ผู้ต้องหาอีกรายที่นายสันติภาพอ้างว่าเป็นคนลงมือใช้เชือกรองเท้ารัดคอนายเอกยุทธจนเสียชีวิตได้แล้ว แต่คาดว่าตำรวจคงยังไม่อยากเปิดเผยอะไรบางอย่างที่ยังมีเงื่อนงำหลายประการ เช่น เครื่องบันทึกภาพกล้องวงจรปิดภายในบ้านนายเอกยุทธที่สูญหายไป ตำรวจก็ไม่มีการพูดถึง ตรงส่วนนี้ตนไม่กังวลเพราะกำลังตรวจสอบระบบภายในที่เชื่อว่านายเอกยุทธน่าจะวางระบบการดูภาพบันทึกกล้องวงจรปิดผ่านทางโทรศัพท์มือถือได้
ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ออกมายืนยันว่าไม่มีการเชื่อมโยงกับการเมืองนั้น ยิ่งเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด เพราะคนที่มาพูดนั้นไม่มีน้ำหนักและไม่มีความน่าเชื่อถือ เขาก็บอกอยู่แล้วว่าเขาเป็น “ขี้ข้าทักษิณ” ถามว่าใครจะเชื่อ ยืนยันว่าคดีนี้นายเอกยุทธไม่ได้เสียชีวิตเพราะการถูกฆ่าชิงทรัพย์อย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ทางญาตินายเอกยุทธรู้สึกอย่างไร นายสุวัตรกล่าวว่า ตอนนี้ญาติพี่น้องเอกยุทธรู้สึกกลัวมาก รู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิต และเศร้าโศกเสียใจต่อการเสียชีวิตของนายเอกยุทธเป็นอย่างมาก
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ในฐานะทนายความของนายเอกยุทธจะดำเนินการอย่างไรต่อไป นายสุวัตรกล่าวว่า อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ขณะนี้ตำรวจกำลังผ่าศพตรวจพิสูจน์การเสียชีวิต สิ่งเหล่านี้สามารถให้คำตอบได้หมด และตนจะดำเนินการต่อสู้ทางกฎหมายต่อไป โดยส่วนตัวเชื่อคดีนี้มีเงื่อนงำแน่นอน แต่ขณะนี้ตำรวจพยายามปิดคดีเป็นฆ่าชิงทรัพย์