ศุลกากรตรวจยึดรถหรูหนีภาษีได้ 10 คัน มูลค่ากว่า 129 ล้านบาท เชื่อไม่เกี่ยวข้องกับรถหรูที่ถูกไฟไหม้ที่โคราช และไม่เกี่ยวกับนักการเมือง ชี้เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการนำเข้าอิสระเท่านั้น เผยพบอีก 4-5 คันที่นำเข้ามาผิดกฎหมาย เตรียมดำเนินคดี
วันนี้ (8 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กรมศุลกากร นางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วย นายราฆพ ศรีศุภอรรถ รองอธิบดีกรมศุลกากร ร่วมกันแถลงผลการจับกุม รถยนต์หรู ลักลอบหนีภาษีศุลกากร และหลีกเลี่ยงอากร จำนวน 10 คัน มูลค่า กว่า 129 ล้านบาท ประกอบด้วย รถยนต์ลัมบอร์กินี รุ่นอะเวนทาดอร์ Lp700-4 จำนวน 2 คัน, รถยนต์เลกซัส รุ่น Ls 600 ไฮบริด 1 คัน, รถยนต์ปอร์เช่ รุ่นบ็อกซ์เตอร์ 1 คัน, รถยนต์เมอร์เซเดสเบนซ์ 4 คัน และบีเอ็มดับเบิลยู 2 คัน
นางเบญจากล่าวว่า การตรวจยึดครั้งนี้สืบเนื่องจากทางกรมศุลกากรตรวจพบว่า บริษัทเอกชนผู้นำเข้ารถยนต์หรูได้มีการสำแดงรุ่นของรถยนต์ไม่ตรงกับที่แจ้งไว้เพื่อเลี่ยงการเสียภาษีให้น้อยลง และยังพบอีกว่ามีบุคคลแอบลักลอบนำรถหรูเข้ามาในประเทศไทยโดยผ่านทางชายแดนภาคใต้ในรูปแบบของนักท่องเที่ยว โดยจะำรถมาจอดทิ้งไว้ และเชื่อว่าจะมีขบวนการมารับต่อ จากการตรวจสอบพบรถยนต์ของกลางทั้งหมดอยู่ในบัญชีทางศุลกากรจึงได้ตรวจยึดไว้ทั้งหมด
นางเบญจากล่าวอีกว่า สำหรับรถยนต์หรูที่ตรวจยึดได้นั้นจากการตรวจสอบเชื่อว่าไม่เกี่ยวข้องกับรถยนต์หรูหกคันที่ถูกไฟไหม้ที่จ.นครราชสีมาและนักการเมืองแต่อย่างใด เป็นเพียงผู้ประกอบการนำเข้าอิสระเท่านั้น และในขณะนี้กรมศุลกากรยังพบว่ามีรถหรูอีก 4-5 คันที่มีการหลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งจะเร่งติดตามมาดำเนินคดี
เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นความผิดฐาน ลักลอบ และนำพาของที่ยังไม่ได้เสียค่าภาษีหรือของที่ยังไม่ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องเข้ามาในราชอาณาจักร หรือลักลอบนำของออกจากคลังสินค้าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงาน ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร มีโทษปรับเป็น 4 เท่าของราคาทรัพย์สินหรือจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
