ดีเอสไอนำหมายศาลเข้าตรวจค้น ร้านจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ พอใจออโต้พาร์ท ภายในซอยโชคชัย 4 ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการนำเข้า และการประกอบรถลัมโบร์กีนี ที่เกิดเพลิงไหม้
วันนี้ (6 มิ.ย.) พ.ต.ต.กล้าหาญ คล่องพยาบาลและเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษจำนวน 15 นาย ได้นำหมายค้น ศาลอาญา เลขที่ 203/2556 ลงวันที่ 5 มิ.ย.2556 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 89 และ 91 ซอยโชคชัย 4 ซอย54 ถนนโชคชัย4 แขวง-เขตลาดพร้าว ซึ่งเปิดเป็นร้านจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ ชื่อพอใจออโต้พาร์ท มีนายกนกวินน์ แก้วทิ้ง อายุ 38 ปี เป็นเจ้าของบ้าน โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ตรวจยึดเอกสารบางอย่างและรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลพาร์ด สีขาว เลขทะเบียนป้ายแดง ถ-1111 กรุงเทพไปตรวจสอบ
ด้านพ.ต.ต.กล้าหาญ กล่าวว่าในการตรวจค้นนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นหาหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า และการประกอบรถยนต์ รวมไปถึงตรวจดูว่าบริษัทนั้นมีการจดทะเบียนที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจค้น ทางเจ้าหน้าที่พบเอกสารบางอย่างเกี่ยวกับการติดต่อซื้อขาย อะไหล่รถยนต์ แต่จากการตรวจสอบยังไม่พบว่าร้านดังกล่าวนำเข้าหรือจำหน่ายอะไหล่รถยุโรป หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับรถลัมโบร์กีนี สีขาว คันที่เกิดเพลิงไหม้ แต่ก็มีเอกสารบางอย่างที่เชื่อมโยงไปยังบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง สำหรับในส่วนรถยนต์ที่ทางเจ้าหน้าที่ยึดไปตรวจสอบนั้น เบื้องต้นพบว่าทางเจ้าของยังไม่มีเอกสารการครอบครองรถยนต์คันดังกล่าวที่ชัดเจน
โดยก่อนหน้านี้ดีเอสไอ ได้ขออนุมัติศาลค้นสถานที่ที่ระบุว่าใช้เป็นที่จดประกอบรถหรู 4 จุด ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับรถลัมโบร์กีนี สีขาว ที่เกิดเหตุไฟไหม้ ประกอบด้วย บริษัทเจเอ็มดับบิว ย่านลำปลาทิว บริษัททีเอเอ็นเอ็กซ์เพลส ย่านลำปลาทิว บริษัทพอใจออโต้คลาส ย่านโชคชัย 4 และบ้านผู้ต้องสงสัย ย่านลำผักชี
ด้านอธิบดีดีเอสไอกล่าวก่อนการประชุม ร่วม กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กรมการขนส่งทางบก และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เพื่อดำเนินคดีกับรถหรูเลี่ยงภาษีศุลกากรและภาษีสรรพสามิต ทำให้รัฐสูญเสียผลประโยชน์ไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท ว่า จะขอประชุมวางแผนกับหน่วยงานทั้ง 5 ก่อน และจะมาแถลงให้ทราบถึงผลการตรวจค้นภายหลัง
