สืบ สน.ร่มเกล้า รวบโจ๋บุกเดี่ยวตระเวนปล้นร้านสะดวกซื้อหลายแห่ง สารภาพก่อเหตุจี้ด่านทับช้าง อ้างตกงาน มีลูกหลายคนและเมียที่ต้องเลี้ยงดู
วันนี้ (31 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ชยุต รัตนอุบล ผบก.น.9 พ.ต.อ.เอก เอกศาสตร์ รอง ผบก.น.3 แถลงผลระดมกวาดล้างอาชญากรรม ยาเสพติด อาวุธปืน อาวุธสงคราม ทำการปิดล้อมตรวจค้มชุมชนเป้าหมาย 222 แห่งระหว่างวันที่ 21-30 พ.ค.สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดยาบ้า ยาไอซ์ กัญชา คดีค้างเก่าตามหมายจับ และความผิดครอบครองอาวุธปืนได้ทั้งหมด 1,453 คน แบ่งเป็นข้อหาจำหน่ายยาเสพติด 243 คน ครอบครอง385 คน เสพยา 822 คน คดีค้างเก่าจำนวน 12 คน อาวุธปืนจำนวน 65 คน ปืน 69 กระบอก กระสุน 348 นัด ยาบ้า 4,532,975 เม็ด ยาไอซ์ 60.4 กิโลกรัม และกัญชา 46 ห่อ
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาลให้ระดมกวาดล้างจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และอาวุธปืน จึงสั่งการให้ บก.น.1-9 ระดมปิดล้อมตรวจค้นชุมชนทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ เร่งระดมกวาดล้างให้สิ้นซากเพื่อลดปัญหาอาชญากรรม โดยทาง บก.น.9 สามารถจับอาวุธปืนได้มากสุด ส่วนคดีสำคัญเป็นของทาง บก.น.3 สน.ร่มเกล้า ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ร่มเกล้าทำการจับกุม นายวิวัฒน์ หรือเอ๋ วิไลชน มีฉายาว่า เอ๋ ปากบึง อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 5 ซอยเคหะร่มเกล้า 2/1 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีขาว-แดง ทะเบียน อบฉ-607 กทม.จำนวน 1 คัน ปืนเด็กเล่นสีดำ 1 กระบอก หมวกกันน็อกสีน้ำเงิน 1 ใบ หมวกกันน็อกสีขาว 1 ใบ หมวกคลุมหน้า 1 อัน กระเป๋าผ้าสีน้ำเงิน 1 ใบ เหล้ายี่ห้อรีเจนซี่พร้อมกล่อง 1 ขวด และกระดาษห่อบุหรี่กรองทิพย์ 1 แผ่น จับกุมได้ที่บ้านพักตามที่อยู่ดังกล่าว
พ.ต.อ.เอกกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากผู้ต้องหาได้ก่อเหตุชิงทรัพย์หลายครั้ง เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 56 เวลาประมาณ 04.20 น.ที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาหมู่บ้านพูนสิน 2 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กทม. ได้เงินสดไปจำนวน 3,000 บาท ต่อมาเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 56 เวลาประมาณ 04.00 น. ได้เกิดเหตุชิงทรัพย์ที่ร้านสะดวกซื้อ 108 ช็อป ปากซอยร่มเกล้า 21 ถนนร่มเกล้า แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กทม. ได้เงินสดจำนวน 1,900 บาท พร้อมทรัพย์สินอีกหลายรายการ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าการก่อเหตุทั้งสองครั้ง คนร้ายมีรูปพรรณและใช้ยานพาหนะเป็นคนเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงวางแผนจับกุม กระทั่งวันนี้ (31 พ.ค.) พบนายวิวัฒน์กำลังขับขี่จักรยานยนต์และแต่งกายตรงกับคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ทั้งสองแห่งมาดูลาดเลาเพื่อเตรียมก่อเหตุชิงทรัพย์ ที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาแฟลตปากบึง ถนนเคหะร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กทม. เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมทันทีและนำตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวนนายวิวัฒน์ หรือเอ๋ ปากบึง ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนเดียวกับที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ในพื้นที่ดังกล่าวทั้งสองเหตุ และรับอีกว่าได้ไปก่อเหตุที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นในพื้นที่ สน.บางชัน ร้านสะดวกซื้อ 108 ช็อป ในพื้นที่ สน.มีนบุรี ได้ทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ และเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 56 เวลาประมาณ 04.30 น. ได้ก่อเหตุชิงทรัพย์พนักงานเก็บเงินช่องเก็บเงินที่ 9 ด่านทับช้าง ได้เงินสดประมาณ 7,000 บาท โดยปืนรั้วของด่านเก็บเงินที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างเข้าไป โดยใช้อาวุธปืนปลอมจี้พนักงานเก็บเงินที่เป็นข่าวครึกโครมก่อนหน้านี้ สาเหตุที่ลงมือชิงทรัพย์อ้างว่าตนนั้นตกงานไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร อีกทั้งมีลูกหลายคนและภรรยาที่ต้องเลี้ยงดู ก่อนหน้านี้ได้รับจ้างขับรถให้ตามบ้านที่ว่าจ้างมา พอตกงานได้ลงมือก่อเหตุภายในสองเดือนประมาณ 5-6 ครั้ง และเงินที่ได้มาจะใช้จ่ายเลี้ยงลูกและเมีย เวลาก่อเหตุจะใช้จักรยานยนต์บุกเดี่ยวตระเวนชิงทรัพย์แต่จะเปลี่ยนสีหมวกกันน็อกทั้งสองใบสลับกัน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาชิงทรัพย์ หรือรับของโจร และในช่วงบ่ายวันนี้ (31 พ.ค.) จะนำตัวนายวิวัฒน์ไปทำแผนยังจุดเกิดเหตุบริเวณด่านทับช้างต่อไป
วันนี้ (31 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ชยุต รัตนอุบล ผบก.น.9 พ.ต.อ.เอก เอกศาสตร์ รอง ผบก.น.3 แถลงผลระดมกวาดล้างอาชญากรรม ยาเสพติด อาวุธปืน อาวุธสงคราม ทำการปิดล้อมตรวจค้มชุมชนเป้าหมาย 222 แห่งระหว่างวันที่ 21-30 พ.ค.สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดยาบ้า ยาไอซ์ กัญชา คดีค้างเก่าตามหมายจับ และความผิดครอบครองอาวุธปืนได้ทั้งหมด 1,453 คน แบ่งเป็นข้อหาจำหน่ายยาเสพติด 243 คน ครอบครอง385 คน เสพยา 822 คน คดีค้างเก่าจำนวน 12 คน อาวุธปืนจำนวน 65 คน ปืน 69 กระบอก กระสุน 348 นัด ยาบ้า 4,532,975 เม็ด ยาไอซ์ 60.4 กิโลกรัม และกัญชา 46 ห่อ
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาลให้ระดมกวาดล้างจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และอาวุธปืน จึงสั่งการให้ บก.น.1-9 ระดมปิดล้อมตรวจค้นชุมชนทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ เร่งระดมกวาดล้างให้สิ้นซากเพื่อลดปัญหาอาชญากรรม โดยทาง บก.น.9 สามารถจับอาวุธปืนได้มากสุด ส่วนคดีสำคัญเป็นของทาง บก.น.3 สน.ร่มเกล้า ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ร่มเกล้าทำการจับกุม นายวิวัฒน์ หรือเอ๋ วิไลชน มีฉายาว่า เอ๋ ปากบึง อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 5 ซอยเคหะร่มเกล้า 2/1 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีขาว-แดง ทะเบียน อบฉ-607 กทม.จำนวน 1 คัน ปืนเด็กเล่นสีดำ 1 กระบอก หมวกกันน็อกสีน้ำเงิน 1 ใบ หมวกกันน็อกสีขาว 1 ใบ หมวกคลุมหน้า 1 อัน กระเป๋าผ้าสีน้ำเงิน 1 ใบ เหล้ายี่ห้อรีเจนซี่พร้อมกล่อง 1 ขวด และกระดาษห่อบุหรี่กรองทิพย์ 1 แผ่น จับกุมได้ที่บ้านพักตามที่อยู่ดังกล่าว
พ.ต.อ.เอกกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากผู้ต้องหาได้ก่อเหตุชิงทรัพย์หลายครั้ง เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 56 เวลาประมาณ 04.20 น.ที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาหมู่บ้านพูนสิน 2 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กทม. ได้เงินสดไปจำนวน 3,000 บาท ต่อมาเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 56 เวลาประมาณ 04.00 น. ได้เกิดเหตุชิงทรัพย์ที่ร้านสะดวกซื้อ 108 ช็อป ปากซอยร่มเกล้า 21 ถนนร่มเกล้า แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กทม. ได้เงินสดจำนวน 1,900 บาท พร้อมทรัพย์สินอีกหลายรายการ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าการก่อเหตุทั้งสองครั้ง คนร้ายมีรูปพรรณและใช้ยานพาหนะเป็นคนเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงวางแผนจับกุม กระทั่งวันนี้ (31 พ.ค.) พบนายวิวัฒน์กำลังขับขี่จักรยานยนต์และแต่งกายตรงกับคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ทั้งสองแห่งมาดูลาดเลาเพื่อเตรียมก่อเหตุชิงทรัพย์ ที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาแฟลตปากบึง ถนนเคหะร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กทม. เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมทันทีและนำตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวนนายวิวัฒน์ หรือเอ๋ ปากบึง ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนเดียวกับที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ในพื้นที่ดังกล่าวทั้งสองเหตุ และรับอีกว่าได้ไปก่อเหตุที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นในพื้นที่ สน.บางชัน ร้านสะดวกซื้อ 108 ช็อป ในพื้นที่ สน.มีนบุรี ได้ทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ และเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 56 เวลาประมาณ 04.30 น. ได้ก่อเหตุชิงทรัพย์พนักงานเก็บเงินช่องเก็บเงินที่ 9 ด่านทับช้าง ได้เงินสดประมาณ 7,000 บาท โดยปืนรั้วของด่านเก็บเงินที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างเข้าไป โดยใช้อาวุธปืนปลอมจี้พนักงานเก็บเงินที่เป็นข่าวครึกโครมก่อนหน้านี้ สาเหตุที่ลงมือชิงทรัพย์อ้างว่าตนนั้นตกงานไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร อีกทั้งมีลูกหลายคนและภรรยาที่ต้องเลี้ยงดู ก่อนหน้านี้ได้รับจ้างขับรถให้ตามบ้านที่ว่าจ้างมา พอตกงานได้ลงมือก่อเหตุภายในสองเดือนประมาณ 5-6 ครั้ง และเงินที่ได้มาจะใช้จ่ายเลี้ยงลูกและเมีย เวลาก่อเหตุจะใช้จักรยานยนต์บุกเดี่ยวตระเวนชิงทรัพย์แต่จะเปลี่ยนสีหมวกกันน็อกทั้งสองใบสลับกัน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาชิงทรัพย์ หรือรับของโจร และในช่วงบ่ายวันนี้ (31 พ.ค.) จะนำตัวนายวิวัฒน์ไปทำแผนยังจุดเกิดเหตุบริเวณด่านทับช้างต่อไป
