รอง ผบช.น.เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อกรณีข้อความในโซเชียลมีเดียจะมีเหตุระเบิด ย้ำกรุงเทพฯ ยังคงเป็นปกติดีไม่มีเหตุร้าย พร้อมสั่งการให้ ตร.ทุกหน่วยเฝ้าระวังพื้นที่อย่างเข้มงวด
วันนี้ (30 พ.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น.แถลงกรณีที่มีการแพร่ข้อความในโซเชียลมีเดียว่าห้ามประชาชนออกนอกบ้าน หรือออกมาห้างสรรพสินค้า หรือแหล่งชุมชน เนื่องจากจะมีเหตุระเบิดว่า สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.สั่งการให้ตำรวจทุกหน่วยเฝ้าระวังพื้นที่อย่างเข้มงวด ยืนยันว่าสถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังคงเป็นปกติดี ไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้น และไม่มีคำสั่งห้ามประชาชนออกนอกบ้านแต่อย่างใด บช.น.ได้เร่งรัดสืบสวนหาข่าว และจัดสายตรวจดูแลความสงบเรียบร้อยของประชาชนอย่างเต็มที่ ขอประชาสัมพันธ์ว่าสามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ตามปกติ
พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ที่แจ้งข่าวทางสื่อมีเดียให้ประชาชนแตกตื่นนั้น ขอความร่วมมืออย่ากระทำการดังกล่าวเพราะทำให้บ้านเมืองเสียหาย แก่ประชาชนและประเทศชาติโดยรวม และอาจผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 ข้อหานำเข้าสู่คอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นข้อมูลอันเป็นเท็จ อันทำให้เกิดความเสียหายแก่ความมั่นคงในประเทศและสร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชน มีโทษจำคุก 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนคดีระเบิดฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวนหาคนร้ายมาดำเนินคดี
วันนี้ (30 พ.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น.แถลงกรณีที่มีการแพร่ข้อความในโซเชียลมีเดียว่าห้ามประชาชนออกนอกบ้าน หรือออกมาห้างสรรพสินค้า หรือแหล่งชุมชน เนื่องจากจะมีเหตุระเบิดว่า สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.สั่งการให้ตำรวจทุกหน่วยเฝ้าระวังพื้นที่อย่างเข้มงวด ยืนยันว่าสถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังคงเป็นปกติดี ไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้น และไม่มีคำสั่งห้ามประชาชนออกนอกบ้านแต่อย่างใด บช.น.ได้เร่งรัดสืบสวนหาข่าว และจัดสายตรวจดูแลความสงบเรียบร้อยของประชาชนอย่างเต็มที่ ขอประชาสัมพันธ์ว่าสามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ตามปกติ
พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ที่แจ้งข่าวทางสื่อมีเดียให้ประชาชนแตกตื่นนั้น ขอความร่วมมืออย่ากระทำการดังกล่าวเพราะทำให้บ้านเมืองเสียหาย แก่ประชาชนและประเทศชาติโดยรวม และอาจผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 ข้อหานำเข้าสู่คอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นข้อมูลอันเป็นเท็จ อันทำให้เกิดความเสียหายแก่ความมั่นคงในประเทศและสร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชน มีโทษจำคุก 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนคดีระเบิดฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวนหาคนร้ายมาดำเนินคดี