จับทีมสังหารปลัด อบจ.ขอนแก่น หนีกบดานสัตหีบ

สตช.แถลงจับทีมสังหารปลัด อบจ.ขอนแก่น เพิ่มอีก 1 ราย หลังหนีกบดานที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธ ขยายผลพบว่ามีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง โดยปมสังหารครั้งนี้คาดเป็นเรื่องชู้สาว

วันนี้ (24 พ.ค.) พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ที่ปรึกษา (สบ 10 ) พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ.4 พ.ต.อ.ยรรยง เวชโอสถ รอง ผบก.สส.ภ.4 พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม ผกก.สส.1 ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายประพันธ์ หรือขวัญ ศรีพิลัย อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดของแก่น ที่ จ.163/2556 ลงวันที่ 6 พ.ค.2556 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา เวลา 07.00 น. ได้มีกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายสุชาติ โคตรทุม ปลัด อบจ.ขอนแก่น เสียชีวิตที่ถนนหน้าบ้านเลขที่ 198/45 หมู่บ้านจอมพล ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังจากนั้นคนร้ายได้หลบหนีไป จากการสืบสวนทราบว่า กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุนั้นประกอบด้วย พ.ต.ท.สมจิตร แก้วพรม รอง ผกก.ป.สภ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ด.ต.วีระศักดิ์ ชำนาญพล ผบ.หมู่ ป.สภ.หนองเรือ นายประพันธ์ และอีกหนึ่งคนที่ยังไม่ทราบชื่อสกุล ต่อมา วันที่ 5 พ.ค. เจ้าหน้าที่ บก.สส.ภ.4 ได้จับกุมตัว ด.ต.วีระศักดิ์ ได้ที่ด่านตรวจ สภ.กู่ทอง จ.มหาสารคาม และให้การซัดทอด พ.ต.ท.สมจิตร ซึ่งต่อมา พ.ต.ท.สมจิตร ได้เข้ามอบตัวสู้คดี ที่ บก.สส.บชน. เมื่อวันที่ 17 พ.ค. พร้อมให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวอีกว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายประพันธ์ ผู้ร่วมก่อเหตุได้หลบหนีซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออก จึงได้ออกสืบสวนติดตามนานกว่า 2 สัปดาห์ จนกระทั่งทราบว่า ได้หลบหนีซ่อนตัวอยู่ในบ้านเช่าแห่งหนึ่งใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงได้สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สัตหีบ และหน่วยปฏิบัติการพิเศษนาวิกโยธิน ค่ายกรมหลวงชุมพร เข้าทำการจับกุมตัว นายประพันธ์ เอาไว้ได้ สอบสวนเบื้องต้นให้การยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง แต่ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สืบทราบเบาะแสเพิ่มเติมว่า ยังมีผู้ร่วมขบวนการอีก 1 คน ที่ยังหลบหนีอยู่ ซึ่งขณะนี้ทราบตัวคนร้ายแล้ว โดยกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำไปสู่การออกหมายจับต่อไป

พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวต่อว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ตัว นายประพันธ์ แล้ว ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะให้การปฏิเสธก็ตาม แต่เจ้าหน้าที่ก็มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงได้ และคาดว่าน่าจะมีคนที่บงการอยู่เบื้องหลังอีก โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุเรียกว่า “นาย” จึงเชื่อได้ว่าน่าจะมีนายที่เหนือขึ้นไปกว่า พ.ต.ท.สมจิตร อีก และจากการสืบสวนเชิงลึกพบว่า กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุกับผู้ตายไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน ส่วนสาเหตุในการลงมือสังหารคาดว่าน่าจะเป็นเรื่องปมชู้สาว

ด้าน พล.ต.ท.กวี กล่าวว่า สาเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้ คาดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวเกี่ยวกับชู้สาว เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาอ้างว่า มีการแค้นเคืองแทนเจ้านาย ซึ่งในวันเกิดเหตุ พ.ต.ท.สมจิตร ได้พูดชักชวน นายประพันธ์ ซึ่งเป็นลูกน้อง มาร่วมทีมยิงผู้ตายด้วย โดยที่นายประพันธ์ ก็ยังไม่ทราบว่าเป้าหมายเป็นใคร แต่ทั้ง พ.ต.ท.สมจิตร และนายประพันธ์ เป็นผู้ลงไปยิงผู้ตายในครั้งนี้ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า ยังมีผู้เกี่ยวข้องอีก 1 คนอยู่ในรถที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทราบตัวแล้วแต่ยังไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง รู้แต่เพียงชื่อเล่นเท่านั้น โดยอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม คาดว่าน่าคนร้ายยังคงหลบหนีกบดานอยู่ในพื้นที่ทางภาคอีสาน หรืออาจจะไปหลบหนีไปที่ จ.ชลบุรีด้วยก็เป็นได้ เพราะมีผู้ใหญ่คอยให้ความช่วยเหลืออยู่ อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.สมจิตร และ นายประพันธ์ ยังคงให้การปฏิเสธตลอด ส่วนจะมีบุคคลที่เหนือขึ้นไปหรือไม่นั้น ทางตำรวจจะดำเนินรวบรวมหลักฐานเพื่อเชื่อมโยงการกระทำความผิดต่อไป

สอบสวนนายประพันธ์ ให้การว่า เดิมตนทำอาชีพเป็นเจ้าของโรงเลื่อยค้าไม้เก่าที่ อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ โดยส่วนตนรู้จักกับ พ.ต.ท.สมจิตร มาได้ประมาณ 4-5 ปี แล้ว ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ยังไม่ขอพูดถึง