xs
xsm
sm
md
lg

ซีซีทีวีมัดแก๊งอิหร่านฉกเงินอาม่าร้านของชำ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ผู้เสียชีตัว ผู้ต้องหาชาวอิหร่านลักทรัพย์
บก.น.8 จับผู้ต้องหาชาวอิหร่านตั้งแก๊งลักทรัพย์ร้านขายของชำย่านสำเหร่ โดยใช้อุบายหลอกแลกธนบัตร ก่อนฉกเงินสูญ 1.5 หมื่นบาท แม้ให้การภาคเสธ แต่จำนนต่อหลักฐานที่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด

วันนี้ (23 พ.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. พล.ต.ต.รัษฎากร ยิ่งยง ผบก.น.8 พ.ต.อ.ธงชัย บุญสมบัติ ผกก.สน.สำเหร่ พ.ต.ท.สายชล ปัญจชัย สว.สส.สน.สำเหร่ แถลงผลจับกุม นายโมฮัมหมัด อารีฟ อายุ 41 ปี สัญชาติอิหร่าน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี เลขที่ 329/2556 ลงวันที่ 20 พ.ค.56 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป พร้อมของกลางเงินสด 15,000 บาท กระเป๋าสตางค์ 1 ใบ เสื้อผ้าและแว่นตาที่ใส่ขณะก่อเหตุ จำนวน 1 ชุด โดยจับกุมตัวได้ที่โรงแรมพันธ์ทิพย์ สวีต ถนนสาทร แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม.

พล.ต.ต.รัษฎากร กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 18.45 น. วันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา นายโมฮัมหมัด ผู้ต้องหารายนี้ได้ร่วมกันกับพวกสัญชาติเดียวกันที่ยังหลบหนีอีก 1 คน ทำทีเข้าไปซื้อเบียร์กระป๋องภายในร้านขายของชำชื่อกันทิมา ตั้งอยู่เลขที่ 389/3 ซอยตากสิน 19 แขวงสำเหร่ เขตธนบุรี กทม.จากนั้นนายโมฮัมหมัด ยังได้นำธนบัตรแบงก์ย่อยมาแลกธนบัตรแบงก์พันจากเจ้าของร้าน โดยอ้างว่าชอบสะสมแบงก์พันสภาพใหม่ๆ และมีเก็บไว้เป็นคอลเลกชัน แต่แล้วก็ใช้อุบายทำการลักทรัพย์ของผู้เสียหายหลบหนีไปได้มูลค่า 15,000 บาท

จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่หลายๆ มุมภายในร้าน ทำให้ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายโมฮัมหมัด กับเพื่อนยังไม่ทราบชื่ออีก 1 คน ถือพาสปอร์ตเข้ามาประเทศไทยในฐานะนักท่องเที่ยว และนายโมฮัมหมัด พักอยู่ที่โรงแรม พันธ์ทิพย์ สวีต ย่านสาทร จึงติดตามไปดักจับกุมตัวได้ที่โรงแรมพร้อมของกลางทั้งหมด

ต่อมา น.ส.อมรรัตน์ ภู่พันธ์ทองคำ อายุ 22 ปี ผู้เสียหายได้เดินทางมาชี้ตัวผู้ต้องหาพร้อมกับ นางกันทิมา ภู่พันธ์ทองคำ อายุ 51 ปี ผู้เป็นมารดา โดย น.ส.อมรรัตน์ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า วันที่เกิดเหตุนายโมฮัมหมัด กับเพื่อนเดินเข้ามาในร้านขอซื้อเบียร์ จำนวน 4 กระป๋อง ทีแรกยื่นธนบัตรแบงก์พันให้ตน ตนจึงหยิบเงินทอนให้ไปจนครบถ้วน จากนั้น นายโมฮัมหมัด ยังสื่อสารภาษาอังกฤษกับตนว่า อยากนำธนบัตรแบงก์ย่อยใบละ 500 บาท 1 ใบ กับใบละ 100 บาท 5 ใบ มาแลกแบงก์พันสภาพใหม่ๆ ไปเก็บสะสม ตนเห็นเป็นชาวต่างชาติจึงหันไปบอกมารดา ซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะเก็บเงิน จนนางกันทิมา เผลอหยิบปึกธนบัตรแบงก์พัน จำนวน 39 ใบ ที่นับไว้รอจ่ายค่าค้าสินค้าออกมาให้ดู เมื่อเห็นแบงก์พันปึกใหญ่ นายโมฮัมหมัด ก็เอื้อมมือไปคว้าเงินทั้งหมดจากมือแม่ตน จากนั้นยังละลาบละล้วงด้วยการแกะหนังยางรัดเงินออก แล้วคลี่แบงก์ออกใบลักษณะกางพัดเพื่อเลือกแบงก์ที่สวยที่สุด แต่สุดท้าย นายโมฮัมหมัด ก็ยื่นเงินคืนให้แม่ตนอ้างว่าไม่มีแบงก์ใบที่ถูกใจไม่ขอแลกแล้ว และจะพาเพื่อนเดินออกจากร้านไป

ผู้เสียหายกล่าวต่อว่า ขณะนั้นตนและแม่เริ่มเอะใจว่า เงินปึกใหญ่เหตุใดจึงบางลงเลยตัดสินใจนับเงินใหม่พบว่าหายไป 15,000 บาท พอย้อนดูภาพกล้องวงจรปิดยิ่งเห็นพฤติกรรมเด่นชัดว่า นายโมฮัมหมัด ใช้วิธีนำกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาบังธนบัตรเก็บไว้ในอุ้งมือส่วนหนึ่ง ก่อนจะยื่นเงินคืนให้แม่ตน จากนั้นก็นำเงินที่ได้ยัดใส่กระเป๋ากางเกงออกจากร้านไปอย่างแนบเนียน

ขณะที่นายโมฮัมหมัดถูกจับกุมยังคงพยายามให้การภาคเสธผ่านล่ามว่า เข้าไปซื้อเบียร์และขอแลกธนบัตรจากร้านค้าของผู้เสียหายจริงแต่ไม่ได้ลักทรัพย์ไป ทางชุดจับกุมจึงเปิดภาพกล้องวงจรปิดให้นายโมฮัมหมัด ดู ทำให้เจ้าตัวถึงกับอึ้งเพราะภาพที่บันทึกได้มีความชัดเจนและมีหลายมุมมอง ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน พร้อมประสาน บช.สตม.ให้ช่วยติดตามตัวคนร้ายที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น