ตำรวจปากเกร็ดนำพยานชี้แจงไม่ได้ซ้อมผู้ต้องหาลักรถยนต์ (ชมคลิป)

นนทบุรี - สภ.ปากเกร็ดแถลงข่าวเรื่องข้อเท็จจริงกรณีสื่อมวลชนเสนอข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนทำร้ายร่างกายผู้ต้องหา



คลิกเพื่อชมคลิป...

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 22 พ.ค. ที่ห้องประชุม ศปก.สภ.ปากเกร็ด ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พ.ต.อ.สุรพงษ์ ถนอมจิต รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.นฤนาท พุทไธสง ผกก.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.ประสงค์ ศิริทิพย์วานิช รอง ผกก.ป.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.โสวัชร ไชยสงคราม รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.มานะ เทียนเมืองปัก หัวหน้างานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด และพ.ต.ท.วิทิต จันทร์เอี่ยม สว.สส. ได้ร่วมกันแถลงข่าวข้อเท็จจริงกรณีสื่อมวลชนเสนอข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.ปากเกร็ด จับกุมผู้ต้องหาคดีลักรถยนต์ที่เมืองทองธานีแล้วได้ทำร้ายร่างกายผู้ต้องหานั้น โดยมีสื่อมวลชน น.ส.เสวนีย์ แซ่จง ผู้เสียหาย และประชาชนที่อาศัยภายในเมืองทองธานีร่วมรับฟังข้อเท็จจริงดังกล่าวและนำช่อดอกไม้มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด เพื่อเป็นกำลังใจในการปฎิบัติหน้าที่

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 56 เวลา 23.30 น. นายพิพัทธ์พงศ์ เตียรุ่งเรืองกิจ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/5 ม.7 ต.บางปะหัน อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งพักอาศัยในอาคารซี 7 คอนโดมิเนียมเมืองทองธานี ได้ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ซ ทะเบียน สว 7952 กทม. ซึ่งเป็นของ น.ส.เสาวนีย์ แซ่จง อายุ 29 ปี แฟนสาว ไปจอดไว้ที่ลานจอดรถอาคาร ซี 7 เมืองทองธานี ม.9 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยได้ทำการล็อกประตูเรียบร้อย และกำลังจะขึ้นไปพักผ่อนที่ห้องพัก ขณะนั้นได้ยินสัญญาณรีโมตประตูรถยนต์ดังขึ้นจึงเดินไปดูที่รถ เห็นนายสุริยัน หรือซัน เพชรลานนา เปิดประตูรถด้านคนขับเข้าไปที่นั่งเบาะคนขับและสตาร์ทติดเครื่องยนต์ นายพิพัทธ์พงศ์จึงรีบวิ่งไปที่รถยนต์โดยได้ที่เรียกผู้คนที่อยู่ใกล้เคียงซึ่งมีทั้งพลเมืองดี และ รปภ.ให้ช่วยกันสกัดจับกุม ในขณะนั้นนายสุริยันได้เร่งเครื่องยนต์เตรียมพร้อมที่จะขับหลบออกไป แต่ได้ถูกนายพิพัทธ์พงศ์พร้อมพวกมาช่วยกันจับ แต่นายสุริยันพยายามขัดขืนตนจึงต่อยไปหลายหมัดและมีชาวบ้านที่ผ่านมาเห็นเหตุการณ์ช่วยกันรุมกระทืบนายสุริยันจนสะบักสะบอม กระทั่งช่วยกันจับกุมตัวนายสุริยันไว้ในที่เกิดเหตุ จากนั้นนายพิพัทธ์พงศ์ได้โทรศัพท์แจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ปากเกร็ด ไปทำการจับกุมตัวนายสุริยันเพื่อดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายสุริยันพร้อมรถยนต์ของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด ดำเนินคดีในข้อหาพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ ตามคดีอาญาที่ 700/2556 ลงวันที่ 10 พ.ค. 56 โดยขณะนั้นพบว่านายสุริยันได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณใบหน้าและลำตัวเหมือนมีร่องรอยการต่อสู้มาก่อนแล้ว

ในชั้นสอบสวนนายสุริยัน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธโดยอ้างว่ามีเพื่อนใช้ให้มาขับรถไป ไม่ทราบว่าเป็นรถของผู้เสียหายแต่จากพฤติการณ์ผู้ต้องหาในชั้นจับกุม ซึ่งนายพิพัทธ์พงศ์พร้อมพวกได้แจ้งและยืนยันว่า นายสุริยันเป็นผู้ก่อเหตุพยายามลักรถยนต์ของกลาง ทั้งนี้จากการสืบสวนเพิ่มเติมน่าเชื่อว่านายสุริยันเป็นกลุ่มแก๊งลักรถยนต์โดยมีผู้อื่นร่วมกันกระทำความผิดด้วย ซึ่งบริเวณที่เกิดเหตุเป็นชุมชนใหญ่ มีรถยนต์หายบ่อยครั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.ปากเกร็ด จึงได้ทำการสืบสวนขยายผล ทราบว่ามีผู้ร่วมกระทำผิดอีก 2 คน ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับต่อไป

ในกรณีที่สื่อมวลชนเสนอข่าวว่า ผู้ต้องหาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร่างกายจนได้รับบาดเจ็บนั้น ข้อเท็จจริงก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจะเดินทางไปรับตัวผู้ต้องหานั้น พบว่า นายพิพัทธ์พงศ์พร้อมด้วยพลเมืองดีและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ร่วมกันจับกุมตัว โดยมีการต่อสู้ขัดขืนของผู้ต้องหาจนได้รับบาดเจ็บมาก่อนแล้ว เมื่อนำตัวมาถึง สภ.ปากเกร็ด พนักงานสอบสวนจึงได้นำตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลชลประทาน หลังจากแพทย์ตรวจร่างกายแล้วก็อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ครบคุมตัวไปฝากขังต่อในศาลในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด มิได้ทำร้ายร่างกายนายสุริยันจนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ ตามคำร้องเรียนและสื่อมวลชนเสนอข่าวแต่อย่างใด

น.ส.เสาวนีย์และแฟนหนุ่มกล่าวว่า เราเป็นคนช่วยกันจับ ยอมรับว่าตนเองก็โมโหเพราะอยู่ในเหตุการณ์ด้วยจึงช่วยกันรุม เหตุการณ์ตอนนั้นเป็นใครก็โกรธที่ถูกขโมยรถ แล้วชาวบ้านแถวนั้นก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ มันเป็นถิ่นที่อยู่ของเขา ส่วนเรื่องรีโมตของตนเป็นของก๊อบปี้ แต่ตัวจริงอยู่กับคนร้าย ตนไม่ทราบและแปลกใจมาก เพราะตนซื้รถมือสองจากเต็นท์รถมาไม่ได้สังเกตว่าอันไหนตัวจริง อันไหนตัวปลอม มีหน้าที่ขับก็ขับไป ตอนที่จับผู้ต้องหามาไม่ได้ให้การอะไร สภาพแบบนั้นให้การอะไรไม่ได้ แค่เดินก็เซแล้วเพราะโดนรุมในที่เกิดเหตุมาเยอะมาก ส่วนด้านคดีตนปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ไม่รู้ทำไมเรื่องนี้ถึงออกมาก่อน ตนไม่เข้าใจว่าทำไมมาพูดแบบนี้ เพราะอันที่จริงเขามาพูดว่าไม่ได้ขโมยรถ ถ้ารถเราหายไปถึงจะเรียกว่าขโมยเหรอ ถ้าเขาปลดเบรกมือคือเขาขับไปได้แล้ว

นายอานนท์ สุริฉาย อายุ 20 ปี นักศึกษา อยู่ที่ 5/22 ตึก P1 คอนโดเมืองทองธานี ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่าตนกำลังเตะบอลอยู่แล้วก็เดินไปนั่งทานอาหารที่ร้านข้าวต้ม ได้ยินเสียงเหมือนวัยรุ่นทะเลาะกันแล้วมีพลเมืองดีเข้ามาช่วย ตนได้ยินเจ้าของรถตะโกนว่า “ไม่ได้ตีกัน โจรขโมยรถผม” จึงได้มาช่วยกันจับคนร้าย ซึ่งตนเป็นคนต่อยคนร้ายแล้วกดตัวเขาลง และนั่งทับไม่ให้ดิ้น ตนจึงบอกให้เจ้าของรถช่วยกันเพราะกลัวจะหลุดหนีไปก็เลยโดนไปหลายหมัด ตอนนั้นชาวบ้านมาล้อมเยอะไม่ได้มอง เพราะมัวมองแต่คนร้ายกลัวคนร้ายหนี ไม่ทราบว่ามีคนถ่ายคลิปเก็บไว้