ศาลตัดสินคดีโจรวิ่งราวทรัพย์ เมื่อต้นปี 2556 จากร้านทองย่านลาดปลาเค้า และ ร้านทองเยาวราช ห้างบิ๊กซี สะพานใหม่ ฉกสร้อยคอ-เลสข้อมือทองคำ รวม 2 คดี จำคุก 8 ปี แต่ให้การรับสารภาพจึงลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือ 4 ปี
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (22 พ.ค.) ศาลได้อ่านคำพิพากษาคดี ดำ อ.1757/56 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายจำนงค์ หรือเอก แก้วคำแสง อายุ 49 ปี อาชีพค้าขาย อยู่บ้านเลขที่ 9/3 ม.9 ต.หนองยาว อ.เมือง จ.สระบุรี เป็นจำเลยในความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพ
โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 23 มี.ค.2556 เวลากลางวัน จำเลยได้ทำทีเข้าไปซื้อทองรูปพรรณที่ร้านทองเยาวราช กรุงเทพฯ ภายในห้างบิ๊กซี สาขาสะพานใหม่ ถ.พหลโยธิน แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม.ขณะที่ น.ส.ยุพิน หรือ ปู เจริญมาตย์ พนักงานขายเผลอ จำเลยได้วิ่งหลบหนีไปพร้อมกับสร้อยข้อมือเลสทองคำ หนักเส้นละ 2 บาท 2 เส้น ราคา 160,000 บาท เตรียมจะขึ้นรถ จยย.ของจำเลย แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน ซึ่งปฏิบัติหน้าที่บริเวณหน้าห้าง วิ่งไล่จับกุมจำเลยได้พร้อมเลสทองคำ 2 เส้น ของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดจริง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336 วรรคแรก ให้จำคุก 4 ปี คำรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ 2 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ศาลอาญายังได้มีคำพิพากษาคดีดำ อ.1758/2556 ให้จำคุกนายจำนงค์ หรือ เอก แก้วคำแสง อีก 2 ปี ในความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำ หนัก 2 บาท จำนวน 2 เส้น ราคา 150,000 บาท จากร้านทองเจริญมณี ย่านลาดปลาเค้า เมื่อวันที่ 13 มี.ค.2556 หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป พร้อมกับสร้อยคอทองคำของกลาง กระทั่งวันที่ 23 มี.ค.2556 ก็มาก่อเหตุซ้ำวิ่งราวทรัพย์เลสข้อมือทองคำอีก 2 บาท จากร้านทองเยาวราช กรุงเทพฯ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สะพานใหม่จนถูกจับกุมได้