ตร.รวบแก๊งโจรกรรมทรัพย์สินมูลค่าหลายล้านบาท พร้อมของกลาง รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีดำ ที่ใช้ก่อเหตุ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง ในหลายพื้นที่ จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พบว่ามีหมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานี
วันนี้ (21 พ.ค.) เวลา 14.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ ฉันทวรลักษณ์ ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ทิวา โสภาเจริญ ผกก.สายตรวจ ร่วมแถลงผลการจับกุม นายสมศักดิ์ หรือ ต๋อย ทองฝาก อายุ 38 ปี นายพีรพงษ์ หรือ พี แซ่เซียว อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันลักทรัพย์ พร้อมของกลาง รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีดำ ทะเบียน ญถ 7251 กทม.แผ่นป้ายทะเบียนปลอมจำนวน 2 แผ่น แผ่นป้ายเสียภาษีกรมการขนส่งทางบกจำนวน 1 แผ่น พร้อมด้วยทรัพย์สินที่ได้จากการลักทรัพย์จำนวนหลายรายการ สามารถจับกุมได้บริเวณปั๊มแก๊ส แอลพีจี ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงจระเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม.
พล.ต.ท.ปริญญา กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากได้รับแจ้งจากผู้เสียหายหลายรายถูกโจรกรรมทรัพย์สินมูลค่าหลายล้านบาท ต่อมาวันนี้ (21 พ.ค.) เวลาประมาณ 02.00 น.ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีกลุ่มที่ก่อเหตุลักทรัพย์ มารวมตัวกันอยู่บริเวณปั๊มแก๊สดังกล่าว จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม โดยพฤติการณ์จะใช้รถยนต์คันดังกล่าวตระเวนสำรวจหมู่บ้านต่างๆ ที่ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทำการกดกริ่งหน้าบ้าน ถ้าไม่มีใครออกมาก็จะลงมือก่อเหตุ โดยมีนายพีรพงษ์ เข้าไปงัดแงะ รื้อเอาทรัพย์สิน และนายสมศักดิ์ จะทำหน้าที่ดูต้นทาง สำหรับการติดต่อสื่อสารของแก๊งนี้จะใช้วิทยุสื่อสารและนำทรัพย์สินที่ได้มาไปจำนำย่านห้วยขวางและนำเงินไปใช้เที่ยวเตร่
พล.ต.ท.ปริญญา กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มีหมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานี และจากขยายผลทราบว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้ได้ลงมือก่อเหตุลักทรัพย์มาไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง ในหลายพื้นที่ สน.ประชาชื่น สน.พญาไท สน.สุทธิสาร สน.บึงกุ่ม สภ.ปากคลองรังสิต สภ.คลองหลวง โดยแต่ละครั้งจะได้เงินประมาณ 1-2 ล้านบาท
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ลงก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง ในหลายพื้นที่จะขับรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค คันดังกล่าว ตระเวนตามหมู่บ้านที่ไม่มี รปภ.โดยใช้วิธีกดกริ่งหน้าบ้าน หากไม่มีใครอยู่ก็จะลงมือก่อเหตุ ซึ่งในการลักทรัพย์แต่ละครั้งจะได้เงินประมาณ 1-2 ล้านบาท หลังก่อเหตุจะทำการเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนทุกครั้ง โดยที่มีแผ่นป้ายสำรองประมาณ 3-4 ชุด สำหรับของที่ได้มาจะนำไปจำนำที่ย่านห้วยขวาง เพื่อนำเงินมาใช้เที่ยวเตร่
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์และควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต และ สภ.คลองหลวง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป