อธิบดีกรมศุลกากร แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาหญิงชาวเวียดนาม ลักลอบขนยาไอซ์เข้าไทย ที่ด่านศุลกากรเกาะสมุย ภายในสนามบินสมุย พร้อมของกลางยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 5,000 กรัม มูลค่าประมาณ 19 ล้านบาท
วันนี้ (3 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กรมศุลกากร ห้องประชุมอนุมานราชธน นางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมศุลกากร แถลงผลการจับกุมนางเหงียน ถิ แบ๋ เสา (MS.NGUYEN THI BE SAU) อายุ 41 ปี หญิงชาวเวียดนาม พร้อมของกลางไอซ์ น้ำหนักประมาณ 5,000 กรัม มูลค่าประมาณ 19 ล้านบาทโดยสามารถจับกุมได้ที่ด่านศุลกากรเกาะสมุย ภายในสนามบินสมุย
นางเบญจา กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 พ.ค.เวลา 09.30 น.เจ้าหน้าที่ศุลกากรด่านศุลกากรเกาะสมุย นำโดย นายประยงค์ กุลศิริรังสรรค์ นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ของด่านดังกล่าว สังเกตเห็นความผิดปกติของนางเหงียน ผู้โดยสารหญิงชาวเวียดนาม ซึ่งเดินทางมาจากเมืองเชนไน ประเทศอินเดีย และโดยสารสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยงบินที่ SQ 529 มาตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.และได้สลับขึ้นเครื่องที่ประเทศสิงคโปร์ เป็นสายการบินซิลค์แอร์ เที่ยวบินที่ MI 772 ในวันที่ 2 พ.ค.และมีจุดหมายปลายทางที่สนามบินสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
นางเบญจา กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบกระเป๋าของนางเหงียนอย่างละเอียดด้วยเครื่องเอกซเรย์ของกรมศุลกากร และพบสารเคมีลักษณะเป็นเกล็ดขาวใส ห่อด้วยพลาสติกซุกซ่อนอยู่ที่พื้นของกระเป๋าอย่างแนบเนียน จำนวน 4 ก้อน น้ำหนักรวมพลาสติกห่อหุ้มทั้งหมดประมาณ 5,431 กรัม มูลค่ารวมประมาณ 19 ล้านบาท
จากการสอบส่วนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้ไม่ยอมพูดภายหลังการถูกจับกุมตัว ซึ่งตรวจดูจากพาสปอร์ตพบว่าเดินทางเข้ามาประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยพบเพียงโพยกระดาษภาษาอังกฤษที่ใช้ในการนำทางเพื่อลักลอบส่งยาไอซ์ดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทรประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิได้รับอนุญาต จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อสอบสวนขยายผลและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป