บก.น.4 แถลงผลจับกุมผู้ต้องหาเอเยนต์ค้ายาบ้าย่านเกษตร-นวมินทร์ อีกรายแถลงการจับกุมผู้ต้องหาคดีละเมิดลิขสิทธิ์ จำหน่ายนาฬิกา-แว่นตากันแดดแบรนด์เนม มูลค่าความเสียหาย 1 ล้านบาท
วันนี้ (23 เม.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 (บก.น.4) พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบก.น.4 พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน รอง ผบก.น.4 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมแถลงผลการจับกุมสองคดี โดยคดีแรก พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ ทองแพ รอง ผกก.สส.บก.น.4 หัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด บก.น.4 จับกุมนายกิตติศักดิ์ หรือเจ๊ก เทพแสง อายุ 28 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 100 เม็ด และนายโสภณ หรือบูม ประจิตร์ อายุ 23 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 2,000 เม็ด อาวุธปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อซีแซด สีดำ ทะเบียน กท 5289260 พร้อมเครื่องกระสุนปืน 6 นัด
พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการล่อซื้อยาบ้าจากนายเจ๊ก โดยนัดหมายส่งยากันที่หน้าบ้านเลขที่ 10 หมู่ 3 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ก่อนจะขยายผลจับกุมนายโสภณได้ที่ย่านลำผักชี ระหว่างเข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาโดดลงน้ำ ทิ้งปืนและยา แต่ไปไม่รอด กระทั่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ จากการสอบสวนขยายผลพบว่าเป็นเครือข่ายนายธิที่ขายยาอยู่ย่านเกษตร-นวมินทร์ สำหรับปืนยี่ห้อซีแซด ตรวจสอบพบเป็นของ ส.ต.อ.วีรพงศ์ มุกสา ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.บางชัน ซึ่งนายโสภณซื้อมาจากเพื่อนในราคา 15,000 บาท
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ขณะที่นายโสภณโดนแจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ทำการขยายผลต่อไป
สำหรับคดีที่ 2 พ.ต.ต.สุรพล อยู่ชยันตี สว.กก.สส.บก.น.4 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของ บก.น.4 สามารถจับกุมนายเสรี กล่อมทอง อายุ 38 ปี พร้อมของกลางเข็มขัดหนังยี่ห้อต่างๆ 55 เส้น นาฬิกายี่ห้อต่างๆ 190 เรือน แว่นตากันแดดยี่ห้อต่างๆ 702 อัน กระเป๋าสะพายใบใหญ่ 369 ใบ กระเป๋าสตางค์เล็ก 270 ใบ รองเท้าแตะ 277 คู่ รวมมูลค่าทรัพย์สิน 5 แสนบาท มูลค่าความเสียหายถึง 1 ล้านบาท
พ.ต.ต.สุรพลกล่าวว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนสืบทราบว่ามีผู้จำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ซุกของอยู่ในบ้านพักเลขที่ 92/1 ซอยลาดพร้าว 132 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ จึงขอหมายศาลอาญารัชดาภิเษกเข้าตรวจค้นและจับกุม พบว่าผู้ต้องหาขายของออกงานตามบูทต่างๆ และสั่งสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์จาก จ.สระแก้ว จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากรข้อห้ามหรือข้อจำกัดตาม พ.ร.บ.ศุลากากร และนำเข้ามาในราชอาณาจักร จำหน่าย เสนอ จำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่เลียนเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายรับรอง หรือเครื่องหมายร่วมของบุคคลอื่น ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
