เพลิงไหม้โรงงานผลิต-รับซ่อมรถสิงทะเลทรายวอดย่านพระประแดง ผลาญรถโฟลารีส ยูทีวี-รถโฟลารีส เอทีวี 7 คัน คาดเสียหายกว่า 3 ล้านบาท จนท.ดับเพลิงเร่งฉีดน้ำสกัดเพลิงนานกว่า 30 นาที เพลิงจึงสงบ ตร.ประสาน จนท.พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจหาสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 18 เม.ย. 56 ร.ต.อ.สมัย เจริญราช ร้อยเวร สภ.สำโรงใต้ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้ภายในบริษัท นครเขื่อนขันธ์คลังสินค้า จำกัด เลขที่ 1 หมู่ 3 ต.สำโรง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นโรงงานประกอบและรับซ่อมรถโฟลารีส ยูทีวี และรถโฟลารีส เอทีวี เป็นรถสิงทะเลทราย จึงรุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผกก.สภ.สำโรงใต้ และรถดับเพลิงเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพราย และเทศบาลใกล้เคียงจำนวน 5 คันเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 2 ชั้นที่ปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ ได้พบเพลิงกำลังลุกไหม้รถโฟลาริสที่จอดอยู่ภายด้านหน้าบริษัทดังกล่าวจำนวนมาก โดยเพลิงได้ลุกโหมอย่างรุนแรงและกำลังลุกลามขึ้นไปลุกไหม้ตัวอาคาร เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดอยู่นานกว่า 30 นาที เพลิงจึงสงบ พบว่าเพลิงได้ลุกไหม้ รถโฟลารีส ยูทีวี และรถโฟลารีส เอทีวี ได้รับความเสียหายจำนวน 7 คัน ซึ่งเป็นรถที่ลูกค้าที่นำมาให้ทางบริษัทซ่อม ร่วมทั้งตัวอาคารและเครื่องทำความเย็นที่ถูกเพลิงเผาผลาญจนได้รับความเสียหายเช่นกัน แต่โชคดีที่เพลิงไม่ลุกลามไหม้เข้าไปในอาคาร เนื่องจากภายในอาคารโรงงานดังกล่าวยังมีรถชนิดเดียวกันจอดเรียงรายอยู่อีกนับร้อยคัน ค่าเสียหายเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท
จากการสอบถามนายจรินทร์ ชูพลา อายุ 68 ปี ซึ่งเป็น รปภ.ของหมู่บ้านจัดสรร และเป็นคนเห็นเหตุการณ์ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุในขณะที่ตนปฏิบัติหน้าที่อยู่ในป้อมยามหน้าหมู่บ้านได้ยินเสียระเบิดดัง 2-3 ครั้ง ก่อนที่จะมีลูกไฟลุกไหม้ขึ้นสูงเกือบถึงยอดไม้และลุกลามอย่างรวดเร็วไปลุกไหม้รถคันอื่นๆ ที่จอดอยู่ติดกัน ด้วยความตกใจตนเจึงได้ตะโกนเรียกชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง และ รปภ.ของบริษัทดังกล่าวออกมาช่วยกันใช้ถังเคมีฉีดสกัดเพลิงแต่ไม่สามารถสกัดเพลิงได้ เพลิงได้ลุกลามไปลุกไหม้ตัวอาคารตนจึงตัดสินใจโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดกั้นบริเวณที่เกิดเหตุเอาไว้ และจะได้ประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
