สลด! หนุ่มใหญ่ซิ่งกระบะแหกโค้งปิดท้ายวันสงกรานต์ดับ

หนุ่มใหญ่ชาวอุบลฯ ควบกระบะแหกโค้งย่านสนามบินน้ำดับ เพื่อนรอด 3 ตร.คาดผู้ตายขับรถด้วยความเร็วและเสียหลักแหกโค้ง ประกอบกับช่วงนั้นมีฝนตกทำให้ถนนลื่นและเป็นที่มืดทำให้ผู้ตายไม่สามารถควบคุมรถไว้ได้จนเสียหลักพลิกคว่ำ

เมื่อเวลา 02.30 น.วันที่ 16 เม.ย. 56 ร.ต.ท.เสถียร เสนผาบ ร้อยเวรสอบสวน สภ.ย่อยรัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งว่ามีรถยนต์กระบะเสียหลักพลิกคว่ำมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ บริเวณโค้งวัดชมภูเวก ถนนสนามบินน้ำ จากนั้นจึงประสานแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นช่วงโค้งวัดชมภูเวกถนนสนามบินน้ำ หมู่ 4 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีดำ ทะเบียน ฒค 2090 กทม พลิกตระแคง อยู่บนบาทวิถี ภายในรถพบร่างผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นชาย ลักษณะส่วนขานั้นยื่นออกมาจากกระจกหลังส่วนลำตัวนั้นถูกตัวรถกดทับติดคาซากรถ การแต่งกายสวมเสื้อยืดสีแดงเลือดหมู กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล ทราบชื่อต่อมาคือ นายวีระพงษ์ กลิ่นชาติ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 ถนนเทศบาล 9 ต.วารินชำราบ อ.วารินชําราบ จ.อุบลราชธานี จากการตรวจสอบภายในตัวพบเงินจำนวน 300 บาท และกุญแจ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า 1 ดอก โดยทางแพทย์เวรระบุว่าผู้ตายมีบาดแผลฉีกขาดที่ศีรษะและซี่โครงหัก จึงเป็นสาเหตุให้เสียชีวิต

นายสิงหา แก้วปทุม อายุ 27 ปีอยู่บ้านเลขที่ 59/13 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี เป็นเพื่อนผู้ตายให้การว่า นายวีระพงษ์ ผู้ตายมีอาชีพขับขี่ จยย.รับจ้างอยู่ซอยจุฬาเกษม ถนนงามวงศ์วาน ก่อนหน้านี้ตนและผู้ตายพร้อมพวกทั้งหมด 4 คนไปนั่งกินข้าวและดื่มสุรากันบริเวณถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี จากนั้นได้ออกจากร้านและเดินทางกลับบ้านที่อยู่บริเวณวัดชมภูเวกซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุโดยมีนายวีระพงษ์เป็นผู้ขับรถและตนนั่งอยู่บริเวณแค็บของรถ พอมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งและมืดมาก ซึ่งรถกระบะดังกล่าวได้เกิดการเสียหลักท้ายปัดและหมุนขึ้นเกาะกลางถนนจนรถข้ามไปอยู่ฝั่งตรงข้ามจากนั้นรถได้พลิกคว่ำจนตัวรถได้ทะไหลไปหยุดนิ่งบริเวณข้างทาง ตนและเพื่อนๆ ที่ยังมีสติอยู่ก็เริ่มคลานออกมา แต่มาพบว่านายวีระพงษ์ได้ถูกตัวรถนั้นทับจนเสียชีวิตแล้ว ส่วนเพื่อนที่มาด้วยได้รับบาดเจ็บคนละเล็กละน้อย

ทางด้านเจ้าหน้ามี่ตำรวจกล่าวว่าจากการตรวจสอบร่องรอยในที่เกิดเหตุ ประกอบกับการให้การของเพื่อนผู้ตายได้สันนิษฐานในเบื้องต้นว่าผู้ตายหน้าจะขับรถมาด้วยความเร็วและได้เสียหลักแหกโค้งประกอบกับเวลาเกิดเหตุนั้นมีฝนตกทำให้ถนนลื่นและเป็นที่มืดจึงทำให้ผู้ตายไม่สามารถควบคุมรถไว้ได้และเกิดเสียหลักพลิกคว่ำพุ่งข้ามเลนไปจึงทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามจะต้องนำตัวเพื่อนของผู้ตายทั้งหมดนั้นมาสอบสวนหาข้อมูลเพิ่มเติมในการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้อีกครั้ง จากนั้นจึงจะมอบผู้เสียชีวิตให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อต็กตึ๊งนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ (รังสิต) ต่อไป