ตร.เตรียมออกหมายจับ 3 มือยิงวัยรุ่น ซ.อินทามระ 29 ส่วนมือยิงอีกคนยังไม่ทราบชื่อ พร้อมเร่งล่าโชเฟอร์แท็กซี่เลือดร้อนยิงผู้โดยสารอ้วกใส่รถ ระบุยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้เสียหาย
วันนี้(15 เม.ย.)ที่สน.บางซื่อ พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 พ.ต.อ.กิตติคุณ พูลสมบัติ รองผบก.น.2 ได้เรียกเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เข้าประชุมชุดคลี่คลายคดีอาชญากรรมที่เกิดขึ้นภายในท้องที่สน.บางซื่อ สน.เตาปูน สน.สุทธิสาร ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของ บก.น. 2 โดยใช้เวลาการประชุมกว่า 1 ชม.
พ.ต.อ.เจริญ เปิดเผยก่อนการเข้าประชุม ว่า สืบเนื่องจากที่มีกลุ่มคนร้ายซ้อนรถ จยย. 2 คัน จำนวน 4 คน เข้ามาก่อเหตุยิงนายภาณุพงศ์ งามจันอัด อายุ 27 ปี จนเสียชีวิต ขณะเล่นน้ำสงกรานต์กับกลุ่มเพื่อน 30-40 คนอยู่บริเวณด้านหน้าธนาคารกรุงศรีอยุทธยา ปากซอยอินทามระ 29 ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 8 ราย หนึ่งในนั้นเป็นเด็กชายอายุ 7 ขวบ 1 ราย ได้นำตัวส่งรพ.เปาโลเมโมเรียล สะพานควาย ต่อมาได้รับแจ้งว่าผู้ได้รับบาดเจ็บได้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ทราบชื่อ ด.ญ.กิตติยา ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในทีสุด โดยทางผู้บังคับบัญชาได้ลงมาตรวจสอบด้วยตนเอง ขณะนี้ทางฝ่ายสืบสวนสน.บางซื่อ ได้รู้คนร้ายแล้ว ทั้งชื่อ นามสกุลจริง แล้ว 3 คน แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบอย่างแน่ชัดอีกครั้ง ก่อนออกหมายจับ นอกจากนนี้ได้มีการสอบปากคำพยานแวดล้อมว่าก่อนหน้านี้วันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา ทางกลุ่มคนร้ายนี้ เคยมาดูราดราวที่บริเวณปากซอยดังกล่าวแล้วครั้งหนึ่ง จนกกระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นจากแนวทางการสืบสวนทราบว่ากลุ่มคนร้ายหวังจะทำร้ายคนในกลุ่มผู้ตาย แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะเจาะจงทำร้ายใคร แต่หวังถึงแก่ชีวิตอย่างแน่นอน โดยน่าจะมีมูลเหตุจากการเคยมีเรื่องราวกันมาก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นวัยรุ่นที่อยู่ละแวกใกล้เคียง ส่วนกรณีเขม่นกันเนื่องจากเทศกาลสงกรานต์นั้นไม่ใช่อย่างแน่นอน
ด้าน ด.ต.ประเสริฐ งามจันอัด อายุ 51 ผบ.หมู่ป.สภ.เมืองสกลนคร พ่อผู้ตาย กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตนมีลูก 3 คนโดยผู้ตายเป็นลูกชายคนโต ซึ่งได้เดินทางมาทำงานรับจ้างทั่วไป และพักอาศัยอยู่กับญาติที่กทม. ได้ประมาณเกือบ 1 เดือน อุปนิสัยลูกชายเป็นคนเข้ากับคนง่าย ใจกว้างชอบช่วยเหลือเพื่อนฝูง ส่วนตัวรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากกับการสูญเสีย เนื่องจากเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของครอบครัว หลังจากนี้จะนำศพลูกชายไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดป่าสุธาวาส ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร โดยจะการสวดอภิธรรมศพเป็นเวลา 3 วัน ก่อนจะฌาปนกิจต่อไป
ส่วนคดีแท็กซี่โหดปืนโหดจ่อยิงผู้โดยสารเมาแล้วอวกนั้น พ.ต.อ.เจริญ เผยว่า ทางฝ่ายสืบสวนสน.เตาปูน ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง แล้วทราบเพียงว่าเป็นแท็กซี่สีชมพู ติดทะเบียนกรุงเทพมหาคร หลังจากนี้จะกระจายกำลังทั้งสืบสวน.เตาปูน และ บก.สส.บช.น. ลงพื้นที่หาติดตามแท็กซี่คันดั่งกล่าวมาดำเนินดคีต่อไป ทางอาการของผู้เสียหาย ทางแพยท์ยังให้ดูอาการอย่างใกล้ชิดและระวังไม่ให้แผลติดเชื้อ
นอกจากนี้ พ.ต.อ.เจริญ กล่าวต่ออีกว่า คดีคนร้ายก่อเหตุฆ่าสาวพม่า หมกห้องเช่า ท้องที่สน.สุทธิสารนั้น ทางเจ้าหน้าที่ยังติดต่อเจ้าของของเช่าดังกล่าวไม่ได้ ซึ่งจากการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุให้การว่า สาวผู้ตายกับเจ้าของห้องเช่า เพิ่งรู้จักกันไม่ถึงเดือน เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่คากว่าคนร้ายก่อเหตุ น่าจะเกิดจากประเด็นเรื่องชู้สาวมาเกี่ยวข้องมากกว่า และขณะนี้ทางฝ่ายสืบสวนทราบตัวคนร้ายแล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางผู้ตายเคยเล่นเฟชบุ๊ค มีกการติดต่อชายคนหนึ่งซึ่งรู้จักกันไม่นานมานี้ผ่านทางกลุ่มของชาวพม่าด้วยกัน ทั้งนี้ต้องรอกการรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่ชัดก่อน อีกทั้งรอผลตรวจชันสูตรศพว่าสาวผู้ตายโดนข่มขืนหรือไม่ด้วย
ต่อมาเมื่อเวลา 12.00น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 พ.ต.อ.กิตติคุณ พูลสมบัติ รองผบก.น.2 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณด้านหน้าธนาคารกรุงศรีอยุทธยา ปากซอยอินทามระ 29 ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. โดยมีการชีจุดที่ยิงจากฝั่งตรงข้ามของที่เกิดเหตุ ดูวิถีกระสัน และร่องรอยกระสุนปืนตามฝาผนังของธนาคารดังกล่าว พร้อมทั้งสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุเพิ่มเติม อีกทั้งลงพื้นที่หาข่าวละแวกที่เกิดเหตุอีกครั้ง
พล.ต.ต.สุธีร์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้มีการเรียกประชุมเพื่อเร่งรัดติดตามความคืบหน้าคดี ทั้ง 3 คดี โดยขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว ทั้งนี้ได้มีการแบ่งงานให้ทางสืบสวนสน.และบก.สส.บช.น. ร่วมมือกันติดตามคนร้าย โดยคดีคนร้ายก่อเหตุยิงภายในซอยอินทามระ 29 ท้องที่สน.บางซื่อนั้น เบื้องต้นขณะนี้ฝ่ายสืบสวนพอที่จะทราบกลุ่มผู้ก่อเหตุและสาเหตุแล้ว แต่อยู่ระหว่างการตรวจสอบทั้งพยานหลักฐานให้แน่ชัดอีกครั้ง ทั้งนี้จากการรับรายงานจากฝ่ายสืบสวนเพิ่มเติมอีกว่าคนร้ายก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องราวกันมาก่อนประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสันนิษฐานว่าผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุนี้เป็นเพียงผู้ที่ถูกลูกหลงเท่านั้น อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะต้องเร่งรัดให้ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.สุธีร์ เผยต่อว่า ส่วนกรณีโชเฟอร์แท็กซี่ก่อเหตุยิงผู้โดยสารที่อาเจียนใส่รถนั้น ขณะนี้ได้สั่งการให้ทางฝ่ายสืบสวนสน.เตาปูน ติดตามกล้องวงจรปิด พร้อมทั้งตรวจสอบพยานแวดล้อมเพิ่มเติม รวมทั้งจะต้องมีการสอบปากคำนาย ปวินท์เกียรติ กวีกิจพิสิฐ อายุ 25 ปี ผู้บาดเจ็บอีกครั้งเนื่องจากในครั้งแรกทางผู้เสียหายอยู่ในอาการไม่มีสติจึงต้องทำการสอบปากคำเพิ่มเติมด้วย