รวบผัวรับเหมาขี้เมาหึงคว้าอีเตอร์จามหัวเมียดับคาที่

ผัวรับเหมาหึงโหดคว้าอีเตอร์จามหัวเมียดับคาที่ คาดเกิดความหึงหวงที่เมียไม่ยอมลาออกจากงานเกรงว่าจะมีชายอื่นมาติดพัน ประกอบกับผัวเป็นคนขี้เมา หลังมีปากเสียงถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันก่อนเกิดเหตุสลดขึ้น ภายหลังไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใดและถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัว

วานนี้ 12 เม.ย. พ.ต.ท.อุทัย สีคช พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สน.หนองแขม รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตายภายในบ้านเลขที่ 5/81 หมู่บ้านเดอะคอนเนค ถ.เพชรเกษม ซ.เพชรเกษม 77 แยก 3 แขวงและเขตหนองแขม กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.ชยุต รัตนอุบล ผบก.น.9 พ.ต.อ.ทักษิณ พ่วงเงิน รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.สุทธา กรรณสูต ผกก.สน.หนองแขม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 30 ตารางวา จากการตรวจสอบที่ตากผ้าบริเวณข้างบ้านพบศพนางกัลจนา หรือตุ่ม เพ็ญฉาย อายุ 51 ปี เจ้าของบ้านซึ่งเป็นพนักงานของบริษัทผลิตกาวยางแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในย่านหนองแขม สภาพศพนอนหงายสวมเสื้อเชิ้ตลายดอกสีส้ม นุ่งกางเกงผ้ายืดขายาวสีดำ มีบาดแผลถูกเฉาะด้วยของมีคม เข้าที่บริเวณกลางหน้าผาก 1 แผล เลือดเริ่มแห้งเกราะกรัง ข้างศพพบอีเตอร์ซึ่งใช้ในงานก่อสร้างเปื้อนเลือดตกอยู่ 1 อัน เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

สำหรับผู้ต้องหาในครั้งนี้คือสามีของผู้ตายชื่อ นายมณี หรือนี คำภู อายุ 54 ปี ทำอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ภายหลังจากการลงมือได้แอบเข้าไปหลบอยู่ในบ้านเพราะดื่มสุราจนเมามายจึงทำให้หลบหนีไปไหนไม่ไหว ต่อมาถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเดินทางไปที่โรงพัก รอฤทธิ์สุราในร่างกายบรรเทาก่อนสอบปากคำเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบสวน น.ส.ขวัญฤดี โพธิรัตน์ อายุ 33 ปี หลานสะใภ้ผู้ตายซึ่งพักอยู่ในบ้านใกล้เคียงกัน ให้การว่า นางกัลจนา และนายมณี เป็นสามีภรรยาแต่งงานอยู่กินกันมานานแล้ว ก่อนหน้านี้กินอยู่จนมีลูกด้วยกัน 3 คน แต่ละคนก็โตเป็นผู้ใหญ่มีครอบครัวกันหมด กระทั่ง 2 ปีที่ผ่านมาหมู่บ้านแห่งนี้สร้างเสร็จ นางกัลจนา จึงทำเรื่องกู้แบงก์เพื่อนำเงินมาซื้อ และนำคนในครอบครัวประกอบด้วย นายมณี ลูกสาว ลูกเขย และหลานชาย มาอยู่ด้วยกัน โดยระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา นายมณี มักจะหาเรื่องมีปากเสียงกับนางกัลจนาตลอด เพราะความหึงหวงที่นางกัลจนาไม่ยอมลาออกจากงานเกรงว่าจะมีชายอื่นมาติดพันและวันไหนที่นายมณี ดื่มสุราจนเมามากก็จะลงมือทุบตีจนนางกัลจนา ทนไม่ไหวขอทำเรื่องหย่าขาดกันแต่ นายมณีก็ยังไม่ยอมย้ายออกไปเสียที

น.ส.ขวัญฤดีให้การต่อว่า วันนี้เป็นช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ลูกสาวของนางกัลจนา พร้อมลูกเขย และหลานชาย ต้องเดินทางไปทำธุระที่ จ.บุรีรัมย์ ตั้งแต่ช่วงบ่าย ปล่อยให้นางกัลจนา และนายมณีอยู่บ้านเพียงสองคน ตนคาดว่าก่อนเกิดเหตุทั้งคู่ก็คงจะมีปากเสียงกันอีกทั้ง นายมณีซึ่งดื่มเหล้าจนเมาและเกิดโมโหจึงคว้าอีเตอร์สับนางกัลจนา จนเสียชีวิต แล้วเข้าไปพักผ่อนต่อในบ้านจนมีผู้มาพบศพและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมตัวได้ในที่สุด