จับหนุ่มริค้ายา อ้างหาเงินไว้เที่ยวสงกรานต์

สน.ตลิ่งชันรวบตัวหนุ่มใต้ตั้งตนเป็นเอเยนต์ค้ายาบ้า เตรียมจัดส่งลงสู่ภาคใต้โดยจับกุมได้ที่บริเวณสถานีขนส่ง อ้างเตรียมหาเงินไว้เที่ยวเทศกาลสงกรานต์

วันนี้ (9 เม.ย.) พ.ต.ท.พิเชียร แสงพิทักษ์ รอง ผกก.ป.สน.ตลิ่งชัน พ.ต.ท.พิสิษฐ์ เทียนเงิน สวป.สน.ตลิ่งชัน พร้อมชุดสายตรวจ สน.ตลิ่งชัน แถลงผลการจับกุมตัว นายพิริยะ แสงหว้า อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/2 ม.8 ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 5,656 เม็ด นายชัยพร ตลึงสัตย์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 ม.7 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมของกลางใบกระท่อมสดจำนวน 300 ใบ สามารถจับกุมตัวทั้งสองรายได้ที่สถานีขนส่งสายใต้ แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กทม.

พ.ต.ท.พิเชียรกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 เม.ย. เวลาประมาณ 19.00 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบส่งยาบ้าไปยังจังหวัดทางภาคใต้ โดยชายลักษณะรูปร่างผอมสูง ใส่เสื้อคอกลม สีชมพู กางเกงยีนส์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกตรวจค้นภายในบริเวณสถานีขนส่งฯ กระทั่งพบนายพิริยะท่าทางมีพิรุธ จึงแสดงตัวขอตรวจค้นพบยาบ้า 3 มัด จำนวน 5,656 เม็ดบรรจุอยู่ในห่อสีน้ำเงิน ซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายหลังสีน้ำเงิน ได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางมาสอบสวน

จากการสอบสวนนายพิริยะให้การอ้างว่า ได้รับว่าจ้างจากชายไทยไม่ทราบชื่อ ให้ไปรับยาที่วางไว้บริเวณขนส่งสายตามที่ได้นัดไว้ จากนั้นให้นำยาบ้าไปส่งยังสถานีขนส่งที่ จ. ชุมพร จะมีคนมารับไปอีกทอด เพิ่งทำเป็นครั้งแรก เนื่องจากเทศกาลสงกรานต์จะกลับบ้านที่ชุมพรจึงอยากหาเงินไว้สำหรับเที่ยวเล่น จึงรับงานมาหากทำสำเร็จจะได้ค่าจ้าง จำนวน 1 หมื่นบาท แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน

ต่อมาเมื่อเวลา 21.00 น. วันเดียวกัน 8 เม.ย. เจ้าหน้าที่สายตรวจที่แฝงตัวอยู่ภายในสถานีขนส่งฯ รายงานว่า พบนายชัยพรมีท่าทีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าขอตรวจค้น พบใบกระท่อมจำนวน 300 ใบภายในกระเป๋าสะพายข้างสีน้ำตาล สอบสวนนายชัยพรให้การอ้างว่าตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป จนเมื่อถึงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปีก็จะกลับบ้าน ส่วนในปีนี้ตรงกับการคัดเลือกทหารที่ จ.นครศรีธรรมราช จึงคิดพิลึกไปขอใบกระท่อม จำนวน 300 ใบจากเพื่อนชื่อบอลที่อยู่บริเวณท่าน้ำนนท์ จ.นนทบุรี เพื่อจะนำไปสังสรรค์

พ.ต.ท.พิเชียรกล่าวอีกว่า ในช่วงเทศกาลได้กวดขันตามคำสั่ง ระดมกวาดล้างปราบปรามยาเสพติดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงได้สั่งชุดปราบปรามเข้มงวดตรวจค้นในพื้นที่ เน้นตามสถานีขนส่ง เพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมในช่วงเทศกาล จนสามารถจับผู้ต้องหาทั้งสองรายไว้ได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้เพื่อจำหน่าย ต่อนายพิริยะ ส่วนนายชัยพร เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาครอบครองยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 5 (ใบกระท่อม) ไว้เพื่อเสพ ก่อนจะส่งตัวทั้งสองรายดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป