“อภิเดช ศิษย์หิรัญ” อดีตนักมวยไทยชื่อดัง สิ้นลมแล้วเช้ามืดวันนี้ที่ รพ.พระมงกุฎ หลังจากนอนพักรักษาตัวด้วยความทรมานจากอาการโรคมะเร็งปอดลุกลามไปยังเยื่อหุ้มหัวใจ บรรยากาศงานศพเป็นไปด้วยความโศกเศร้าเตรียมขอพระราชทานเพลิงศพ วันที่ 9 เมษายนนี้
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (4 เม.ย.) ที่วัดบางพลีใหญ่กลาง หรือวัดพระนอน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการรดน้ำศพนายณรงค์ ทรงมณี หรือ “อภิเดช ศิษย์หิรัญ” อายุ 72 ปี อดีตนักมวยไทยชื่อดังเจ้าของฉายา “จอมเตะแห่งบางนกแขวก” บริเวณศาลา 5 ตรีชม บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า หลังจาก “อภิเดช ศิษย์หิรัญ” ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งปอดที่ลุกลามไปที่เยื่อหุ้มหัวใจที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ เมื่อเวลา 02.00 น.วันนี้
โดย นางปรางค์ทิพย์ ทรงมณี อายุ 67 ปี ภรรยาของนายณรงค์ ทรงมณี พร้อมบุตรทั้ง 3 คน และเพื่อนๆ ของนายณรงค์ อาทิ ต้อยติ่ง เกียรติ์วายุภักดิ์ ใบหยก บขส ชัยยศ อ.มหาชัย จงอางน้อย จิตรสิงคงคา ดำเนินเดช สนั่นเมือง ชาลี พยัคเดช ได้ทำพิธีรดน้ำศพ โดยมีญาติพี่น้องและเพื่อนร่วมวงการมาร่วมพิธี และมีนายจงเดชา บุษราบวรวงศ์ หัวหน้าค่ายมวยแฟร์เท็กซ์ เดินทางมาร่วมรดน้ำศพด้วย
นางปรางทิพย์ กล่าวว่าจะทำพิธีสวดศพทั้งหมด 5 วัน ตั้งแต่ค่ำวันที่ 4 เมษายน ถึงวันที่ 8 เมษายน 2556 เวลา 19.00 น.และพระราชทานเพลิงศพ วันที่ 9 เมษายน
สำหรับนายณรงค์ ทรงมณี หรือ อภิเดช ศิษย์หิรัญ เกิดเมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2484 ที่ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นบุตรของนายพยอม ญาณประทีป กับนางเสงี่ยม ทรงมณี ชีวิตในวัยเด็กเรียนหนังสือไม่ค่อยเก่ง แต่ชอบเล่นกีฬาจนได้เป็นนักกีฬาของโรงเรียนวัดเจริญสุขารามวรวิหาร เริ่มหัดชกมวยไทยเมื่ออายุเพียงแค่ 13 ปี กับครูสุพร วงศาโรจน์ ซึ่งเป็นครูสอนพละได้สอนศิลปะแม่ไม้มวยไทยให้จนได้ขึ้นชกครั้งแรกที่อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี และสามารถคว้าชัยชนะมาได้ จากนั้นได้ขึ้นเวทีตระเวนชกมวยไทยทั้งในจังหวัดสมุทรสงครามและใกล้เคียงจนได้รับการกล่าวขวัญโดยเฉพาะลีลาการเตะที่หนักหน่วงและแม่นยำ กระทั่งนายเกษม เอี่ยมภิญโญ ผู้จัดรายการมวยในกรุงเทพ เห็นลีลาการต่อสู้จึงชวนไปชกมวยที่กรุงเทพโดยใช้ชื่อ “อภิเดช ลูกพรชัย” ต่อมาปี พ.ศ.2500 นายสุพร วงศาโรจน์ ได้พาไปฝากเป็นศิษย์ค่ายมวย “ศิษย์หิรัญ” ของนายเกษม และนางองุ่น เอี่ยมภิญโญ และใช้ชื่อ “อภิเดช ศิษย์หิรัญ” พัฒนาลีลาการเตะและพลังแข้งหนักหน่วงยิ่งขึ้นจนคู่ต่อสู้บางรายถึงกับซี่โครงหัก จึงได้ฉายา “จอมเตะแห่งบางนกแขวก” เป็นที่รู้จักแพร่หลายก้องโลกระหว่างปี พ.ศ.2503-2514 โดยในปี พ.ศ.2507 ครองเข็มขัดแชมเปียนรุ่นเวลเตอร์เวตทั้งมวยไทยและสากล รวมถึงแชมเปียนมวยสากลภาคตะวันออกไกลรวม 7 เส้น และยังเคยคาดเข็มขัดแชมป์คราวเดียวถึง 5 เส้น
คู่ชกที่สำคัญของอภิเดช ศิษย์หิรัญ ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นเช่น เดชฤทธิ์ อิทธิอนุชิต, เขียวหวาน ยนต์กิจ, ธานี พยัคฆโสภณ, เผด็จศึก พิษณุราชัน, สมพงษ์ เจริญเมือง, เด่น ศรีโสธร, ทองใบ เจริญเมือง ,พฤหัสเล็ก ศิษย์ชุนทอง,ชูชัย พระขันธ์ชัย, ก้องนภา พยัคฆโสภณ, เจนศึก สกุลชัย, พันธ์ทิพย์ แก้วสุริยะ,โผผิน เพชรชิงชัย และชำนาญเดช บขส.เป็นต้น
หลังจากหาคู่ชกยากขึ้น “อภิเดช ศิษย์หิรัญ” ก็ได้หันไปชกมวยสากลรุ่นเวลเตอร์เวต และได้แชมป์ทั้งเวทีราชดำเนินและเวทีลุมพินี จากนั้นก็ได้ขึ้นชกกับนักมวยต่างชาติ จนอายุมากขึ้นจึงได้แขวนนวมและห่างหายไปจากวงการมวยอยู่หลายปีก่อนจะหวนกลับมาสู่วงการมวยไทยอีกครั้งด้วยการเป็นเทรนเนอร์ให้นักมวยค่าย “แฟร์เท็กซ์”
กระทั่งได้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ ด้วยอาการป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดและลามไปที่เยื่อหุ้มหัวใจ เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 4 เมษายน 2556
