ชุดสืบปทุมฯ พร้อมด้วย ตร.สภ.หนองเสือ เข้าจับกุมแรงงานต่างด้าวสัญชาติลาวร่วม 200 คน ที่บ้านร้างไร่ข้าวโพด โดยมีการรวมตัวกันที่จุดนัดหมายเพื่อกลับประเทศลาว โดยต้องเสียเงินคนละ 2,500 บาทต่อหัว ภายหลังจะมีรถกะบะมารับกลุ่มแรงงานต่างด้าวเพื่อไปส่งที่ชายแดนฝั่ง อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ก่อนนำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากนั้นจะผลักดันแรงงานต่างด้าวทั้งหมดกลับประเทศต่อไป
วันที่ 2 เมษายน 2556 พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุนทร หิมารัตน์ ผกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.ท.ภูริสิทธิ์ ทับทิมทอง สว.สส.สภ.คูบางหลวง ปฏิบัติหน้าที่ ภ.จว.ปทุมธานี ชุดสืบสวน ภ.จว.ปทุมธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองเสือ ทำการเข้าจับกุมแรงงานต่างด้าวสัญชาติลาว รวมชายและหญิงกว่า 200 คน ได้ที่บ้านร้างระหว่างคลองเก้า-คลองสิบ หมู่ที่ 8 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี
พ.ต.อ.สุนทร หิมารัตน์ ผกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี กล่าวว่า การจับกุมแรงงานต่างด้าวครั้งนี้ ทราบว่าชาวลาวทั้งหมดได้รวมตัวกันที่จุดนัดหมายกันที่บ้านร้างไร่ข้าวโพด ระหว่างคลองเก้า-คลองสิบ หมู่ที่ 8 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี พร้อมด้วยกระเป๋าข้าวของสัมภาระ สอบสวนทราบว่า แต่ละคนเดินทางมาจากเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปทุมธานี โดยเดินทางด้วยรถแท็กซี่นัดหมายมารวมกันที่จุดนัดหมายดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.สุนทร กล่าวว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า แรงงานต่างด้าวทั้งหมดนั้นได้เดินทางมาจากตลาดไท อำเภอคลองหลวง และบางรายเดินทางมาจากพื้นที่เขต กทม. นนทบุรี และสมุทรปราการ โดยขึ้นแท็กซี่กันมา และได้มารวมตัวกันที่บ้านร้างดังกล่าว จากนั้นก็จะมีรถมารับ และเดินทางต่อไปยังจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อที่จะกลับประเทศลาว โดยเสียเงินคนละ 2,500 บาทต่อหัว และจะมีรถกะบะมารับกลุ่มแรงงานต่างด้าวอีกที เพื่อไปส่งที่ชายแดนฝั่ง อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี เนื่องจากต้องการเดินทางกลับไปบ้านยังประเทศลาวเพราะเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ของประเทศลาวเช่นกัน
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ทำประวัติไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากนั้นจะผลักดันแรงงานต่างด้าวทั้งหมดกลับประเทศต่อไป