“อดุลย์” กำชับหนัก เน้น 3 เรื่องหลักที่ต้องป้องกันปราบปรามอย่างจริงจัง อาชญากรรมทั่วไป-ยาเสพติด-อบายมุข พร้อมด้วยประเมินการทำงานในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา รวมถึงการกวดขันตำรวจที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าแรงงานต่างด้าว ค้าไม้เถื่อน
วันนี้ (2 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงถึงภาพรวมสถานภาพอาชญากรรมในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พบว่าคดีอาชญากรรมต่างๆ ลดน้อยลง โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับคดีโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ถึงแม้จะลดน้อยลงทุกพื้นที่ แต่จากข้อมูลพบว่าในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา ได้รับแจ้งรถหายมากที่สุด โดยคนร้ายมักลงมือในช่วงเวลา 18.00-24.00 น. ทั้งบริเวณในบ้านพัก ลานจอดรถแฟลตหรือคอนโดมิเนียม โดยจักรยานยนต์ที่หายมากที่สุดคือยี่ห้อฮอนด้า รุ่นฟีโน่ ส่วนรถยนต์คือยี่ห้ออีซุซุ รุ่นดีแมคซ์
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า ในการประชุมบริหาร ตร.วันนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการกำชับว่า ครบกำหนด 6 เดือนที่เป็น ผบ.ตร.และได้มอบนโยบายด้านต่างๆ ไปแล้ว ขอให้หัวหน้าสถานีทุกแห่ง ผู้บังคับการทุกหน่วย ปฏิบัติตามนโยบายเคร่งครัด โดยเน้น 3 เรื่องหลักที่ต้องป้องกันปราบปรามอย่างจริงจัง คือ 1. อาชญากรรมทั่วไป 2. ปราบปรามยาเสพติดโดยเฉพาะในชุมชน หมู่บ้าน เน้นการนึดทรัพย์ บำบัดผู้เสพ และ 3. ปราบปรามอบายมุข หากพื้นที่ไหนละเลย ไม่อยู่หน่วย ไม่ปฏิบัติจริงจังก็ต้องพิจารณาย้ายทันที หากผู้บัญชาการหน่วยมีข้อมูลทางลับก็ให้ส่ง ผบ.ตร.ด้วย เพื่อประเมินการทำงาน ขณะเดียวกัน ผบ.ตร.ให้ฝ่ายยุทธศาสตร์ประเมินผลงานของ ผบ.ตร.ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาด้วย นอกจากนี้ ผบ.ตร.ชื่นชมนครบาล ที่ให้ความสำคัญการปราบปรามเจ้าหนี้ทวงหนี้โหด และสั่งการทุกหน่วยปราบปรามมาเฟียเงินกู้อย่างจริงจัง พร้อมกวดขันตำรวจที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าแรงงานต่างด้าว การค้าไม้เถื่อน หรือการกระทำผิดอื่นๆ
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวต่อว่า ผบ.ตร.มีคำสั่งย้ำไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาลกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และภาค 8 ซึ่งมีการผลิตและจำหน่ายสินค้าละเมิดสิขสิทธิ์ ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาจำนวนมาก โดยผลการจับกุมยังต่ำกว่าที่กำหนด โดยให้เร่งตรวจค้นโกดังเก็นสินค้า และจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์อย่างจริงจัง พร้อมรายงานผลภายในวันที่ 19 เมษายน ซึ่งหากพบผลการจับกุมต่ำกว่าเป้าจะพิจารณาโทษผู้รับผิดชอบพื้นที่ต่อไป