ตม.ดอนเมือง จับกุมหนุ่มอินโดฯ คาสนามบิน หลังหนีคดีฆาตกรรมลูกชายนักธุรกิจเศรษฐีชื่อดังที่กรุงจาการ์ตา ขณะพยายามหลบหนีไปยังประเทศลาว เผยก่อนหน้านี้มาบวชเป็นสามเณรที่วัดในสระบุรี อ้างผู้ตายติดหนี้พนัน 24 ล้านบาท จึงก่อเหตุ ด้านตร.อินโดฯ เตรียมนำกลับประเทศอินโดนีเซียคืนนี้เพื่อสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงและดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (2 เม.ย.) เวลา 11.00 น. ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซอยสวนพลู พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.สตม. พล.ต.ต.ชิษณุพงศ์ ยุกตะทัต รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบก.สส.สตม. ร่วมกันจับกุมนายมูลยาดี อายุ 20 ปี สัญชาติอินโดนีเซีย ผู้ต้องหาก่อเหตุฆาตกรรมลูกมหาเศรษฐีที่ประเทศอินโดนีเซีย แล้วหลบหนีมาซ่อนตัวในประเทศไทย โดยสามารถจับกุมได้ที่สนามบินดอนเมือง
พล.ต.ท.ภาณุกล่าวว่า สืบเนื่องจากได้รับการประสานจากสำนักงานตำรวจประเทศอินโดนีเซีย ให้ช่วยติดตามจับกุมตัวนายมูลยาดี ผู้ต้องหาได้ร่วมกับเพื่อนรวม 3 คนที่ถูกทางการอินโดนีเซียออกหมายจับกุมคดีฆาตกรรมลูกชายนักธุรกิจเศรษฐีชื่อดัง และหลบหนีมายังประเทศไทย จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาพยายามหลบหนีไปยังประเทศลาว โดยจองตั๋วเครื่องบินจากกรุงเทพฯ เพื่อไปยัง จ.อุดรธานี และรอรถโดยสารเพื่อต่อไปยังกรุงเวียงจันทร์ประเทศลาว เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจำสนามบินดอนเมืองจึงได้ทำการจับกุมตัวไว้ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ 2 เดือน นายมูลยาดี้ได้เข้ามาประเทศไทยและบวชเป็นสามเณรที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี ก่อนบินกลับไปและหนีเข้ามาทางสิงคโปร์มาพักอาศัยอยู่บ้านอาจารย์จอมขมังเวทที่ชื่อ อ.ปรีชากุล หรือ ออขมังเวท ในซอยเพิ่มสินแยก 10 ย่านสายไหมได้เพียง 3 วัน กระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้ขณะเตรียมหลบหนี
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับพวกก่อเหตุฆ่านายวิลเลียม ลีม ทายาทของตระกูลมหาเศรษฐี นักธุรกิจเจ้าของกิจการเครื่องครัวยี่ห้อบีมาร์ ในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 55 โดยใช้ถุงพาสติกคุมหัวและใช้ค้อนทุบจนเสียชีวิต สาเหตุเนื่องจากกลุ่มคนร้ายอ้างว่าผู้ตายติดหนี้พนันจำนวน 24 ล้านบาท จึงเป็นมูลเหตุให้ก่อเหตุดังกล่าว
นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอินโดนีเซียได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 4 นายมาร่วมสอบสวน และเปิดเผยว่าคดีนี้เป็นคดีสำคัญในประเทศอินโดนีเซียที่ทางเจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนและต้องการตัวผู้ต้องหาเป็นอย่างมาก เนื่องจากแนวทางการสืบสวนทราบว่ามูลเหตุนั้นเกี่ยวกับเรื่องมรดกและทรัพย์สินของผู้ตาย จึงต้องนำตัวนายมูลยาดีกลับไปประเทศอินโดนีเซียในคืนนี้เพื่อสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงและดำเนินคดีต่อไป