xs
xsm
sm
md
lg

รวบ 2 โจ๋วินมอไซค์ กระชากกระเป๋าไฮโซย่านทองหล่อกว่า 5 ล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ตำรวจชุดสืบสวนติดตามจับกุม 2 ผู้ต้องหาวัยรุ่นก่อเหตุ ซิ่งรถจักรยานยนต์วิ่งราวทรัพย์สาวใหญ่ไฮโซย่านทองหล่อ พร้อมของกลางมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท สารภาพติดหนี้พนันบอล และเคยติดยามาก่อน จึงชักชวนเพื่อนร่วมก่อเหตุย่านถนนสุขุมวิทซอย 55 โดยกระทำมาแล้ว 5 ครั้ง แต่ทำสำเร็จเพียง 3 ครั้ง ตร.ระบุ 2 หนุ่มดังกล่าวเคยติดคุกข้อหาลักทรัพย์ มาก่อน


วันนี้ (29 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น.รรท.ผบก.น.5 พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.สส.3 บก.สส. พ.ต.ท.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน สว.สส.3 บก.สส. พ.ต.ท.คมกฤชเอกโพธิ์ พ.ต.ต.วิษณุวัฒน์ ภู่ระหงษ์ สว.สส.กก.สส.บก.น.5 และ ร.ต.อ.ทองเปลว หาญไพบูลย์ รอง สว.สส.สน.ทองหล่อ ร่วมแถลงผลการจับกุม นายกุลบุตร หรือ แม็ค ประเทืองสิน อายุ 30 ปี และนายสมพงษ์ หรือ จ๊อก มาพลับ อายุ 31 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ 205/2556, 206/2556 ลง 28 มี.ค.2556 ในข้อหา “ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป” พร้อมของกลางเครื่องประดับ แหวนมุก 1 วง ต่างหูมุก 1 คู่ พระสมเด็จนางพญา 1 องค์ สร้อยข้อมือทองคำหนัก 2 บาท (โดยนำสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทไปขายและซื้อสร้อยข้อมือทองคำ 2 บาทแทน) พระนาคปรกเจ้าคุณนร 1 องค์ และตรวจยึดรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ-125 สีแดง-ดำทะเบียน คขก 472 นครสวรรค์ จับกุมนายกุลบุตร ได้ที่บริเวณหน้านิคมโรจนะ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา และจับนายสมพงษ์ ได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 111 ม.6 ต.ตาขีด อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์

พล.ต.ต.ปริญญา กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2556 เวลาประมาณ 11.05 น.เกิดเหตุคนร้าย 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดง-ดำ ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ นางประทุม รัตนาวะดี ไฮโซในแวดวงชั้นสูง ประกอบธุรกิจโรงงานไฟฟ้าเอกชนขนาดใหญ่ในประเทศ เหตุเกิดที่ซอยทองหล่อ 20 ท้องที่ สน.ทองหล่อ โดยได้ทรัพย์สินเป็นเงินสด 80,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง เครื่องประดับ แหวนมุก, ต่างหูมุก และพระเครื่องหลายองค์ มีพระสมเด็จนางพญา, ล็อกเกตเลี่ยมทองหลวงปู่ฝั้น อาจาโร,พระนาคปรกเจ้าคุณนร รวมมูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท แล้วหลบหนีไป

ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนออกติดตามคนร้าย โดยกลุ่มคนร้ายรายนี้ได้ขับรถจักรยานยนต์วนเวียนหาเหยื่อบริเวณซอยสุขุมวิท 55 และเมื่อมาถึงซอยทองหล่อ 20 ได้พบผู้เสียหายเดินอยู่ในซอย จึงวิ่งราวเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายแล้วหลบหนีไป จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากจุดเกิดเหตุ และตามเส้นทางที่หลบหนีของคนร้ายอย่างต่อเนื่องทราบว่ากลุ่มคนร้ายได้หลบหนีมาที่ซอยเสือใหญ่อุทิศ แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม.และพบว่าคนร้ายได้หลบหนีถึงจุดสิ้นสุด ที่บริเวณหน้าพีแอนด์บี แมนชั่น จึงได้ตรวจสอบกล้องภายในแมนชั่นดังกล่าวพบว่า คนร้ายทั้งสองคนหลังก่อเหตุได้หลบหนีเข้าไปในห้องพักเลขที่ 301 จากการตรวจสอบคนร้ายตามภาพกล้องวงจรปิด คือ นายกุลบุตร และนายสมพงษ์ จึงทำการออกหมายจับ

พล.ต.ต.ปริญญา กล่าวต่อว่า ภายหลังจากที่จับกุมตัวนายกุลบุตรแล้ว ชุดสืบสวนได้คุมตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้นพบของกลางเครื่องประดับ แหวนมุก 1 วง ต่างหูมุก 1 คู่ พระสมเด็จนางพญา 1 องค์ และสร้อยข้อมือทองคำหนัก 2 บาท ส่วนนายสมพงษ์ ตรวจค้นพบพระนาคปรกเจ้าคุณนร 1 องค์ และจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นทั้งสองคนให้การสารภาพว่า รู้จักกันมาประมาณ 10 ปีแล้ว เป็นเพื่อนร่วมวินรถจักรยานยนต์ในซอยเสือใหญ่อุทิศด้วยกัน ต่อมาเป็นหนี้การพนันฟุตบอล จึงได้ร่วมกันก่อเหตุ วิ่งราวทรัพย์ ในย่านถนนสุขุมวิทซอย 55 ประมาณ 5 ครั้ง แต่ก่อเหตุสำเร็จได้ทรัพย์สิน 3 ครั้ง คือ เมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2556 ได้เงินสดประมาณ 7,000 บาท ท้องที่ สน.ทองหล่อ จากนั้นเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2556 ได้เงินสดประมาณ 8,000 บาท พร้อมโทรศัพท์มือถือไอโฟน 1 เครื่อง ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ และเมื่อ 25 มี.ค. 2556 ในคดีนี้ซึ่งเมื่อก่อเหตุสำเร็จแล้วได้ขับรถจักรยานยนต์กลับที่พัก แล้วนำเงินสดมาแบ่งกันคนละ 40,000 บาท และแบ่งพระเครื่องและเครื่องประดับกันดังกล่าว ตามที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้แล้วแยกย้ายกันหลบหนี

จากการสอบสวนนายสมพงษ์ ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกับนายกุลบุตรก่อเหตุชิงทรัพย์ผู้เสียหายในพื้นที่ สน.ทองหล่อ จริง และก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์มาแล้วประมาณ 3 ครั้ง ปกติทำอาชีพขับรถ จยย.รับจ้างอยู่ภายในซอยเสือใหญ่กับนายกุลบุตร แต่เงินไม่พอใช้จึงต้องก่อเหตุดังกล่าว ทรัพย์สินส่วนใหญ่จะเอาไปขายตามร้านทอง นำเงินไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านรัชดาและเล่นการพนันในซอยเสือใหญ่ ก่อนหน้านี้เคยติดยาบ้าแต่ปัจจุบันเลิกเสพแล้ว สำหรับเหยื่อรายล่าสุดนั้น ไม่ได้ขี่รถ จยย.ติดตามมาจากบ้านพัก เพียงแต่ระหว่างที่ออกตระเวนก่อเหตุเห็นว่าเดินอยู่และสบโอกาสที่จะก่อเหตุจึงขี่รถ จยย.ตาม ก่อนจะประกบและกระชากกระเป๋าถือไป หลังก่อเหตุเสร็จได้กลับมาที่ห้องพักย่านซอยเสือใหญ่ แต่พอรู้ข่าวก็รีบขี่รถ จยย.หลบหนีกลับไปบ้านเกิดที่จ.นครสวรรค์ ส่วนนายกุลบุตรหลบหนีไปกบดานที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จนกระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้

นอกจากนี้ ตรวจสอบประวัตินายกุลบุตร พบว่าเคยถูกจับเมื่อ 20 มิ.ย. 2549 ในข้อหา ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ฯ ท้องที่ สน.พหลโยธิน ศาลอาญา พิพากษาลงโทษจำคุก 5 ปี แต่ติดคุกประมาณ 3 ปี 7 เดือน และออกมาก่อเหตุวิ่งราวอีกส่วนนายสมพงษ์ เคยถูกจับเมื่อปี 2546 ในข้อหาลักทรัพย์ ท้องที่ สภ.เมืองกำแพงเพชร, ก่อเหตุบุกรุกในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยใช้กำลังประทุษร้าย เมื่อ 17 เม.ย.2549 ท้องที่ สภ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์, เมื่อ 4 ส.ค. 2554 ถูกจับกุมข้อหา มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครอง ท้องที่ สภ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ และเมื่อ 3 ก.ค. 2555 ถูกจับกุมข้อหา ลักลอบเล่นการพนันไฮโล ท้องที่ สน.พหลโยธิน

เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวก แก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป” ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.ทองหล่อ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น