xs
xsm
sm
md
lg

บก.น.9 ทลายแหล่งผลิตยาเครายใหญ่ย่านภาษีเจริญ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ผู้ต้องหา“ร่วมกันผลิตและมีวัตุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (ยาเคหรือเคตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต”
บก.น.9 พร้อมชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. และชุดสืบสวน บก.น.9 แถลงการจับกุม 4 ผู้ต้องหา แก๊งผลิตและจำหน่ายยาเครายใหญ่ย่านภาษีเจริญ พร้อมของกลางยาเค 5.3 กก. ยาเคชนิดน้ำบรรจุขวด 405 ขวด ชนิดผง 102 และอาวุธปืน 9 มม.2 กระบอก พร้อมยึดทรัพย์สินกว่า 3 ล้าน สารภาพนักโทษในเรือนจำสั่งการ

วันนี้ (29 มี.ค.) เวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ชยุต รัตนอุบล ผบก.น.9 พร้อมด้วยชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. และชุดสืบสวน บก.น.9 แถลงจับกุม นายวิเชียร หรือมิตร จินตง อายุ 30 ปี นายชาญณรงค์ หรือตั้ม บุญแต่ง อายุ 30 ปี นายคณากร หรืออาร์ม ทินนา อายุ 21 ปี และนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันผลิตและจำหน่ายยาเสพติด (ยาเค) พร้อมของกลางยาเคชนิดผง 5.3 กก. ยาเคชนิดน้ำบรรจุขวด 405 ขวด ยาเคชนิดผงบรรจุขวดอีก 102 ขวด อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 25 นัด นอกจากนี้ยังมีน้ำกลั่นที่ใช้ผสมยาเคอีกจำนวน 23 ขวด โดยจับกุมได้ที่บ้านเช่าในหมู่บ้านไผ่ทองนิเวศ ซ.เพชรเกษม 25/2 แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ

พล.ต.ต.ชยุตกล่าวว่า ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สืบทราบว่านายวิเชียรเป็นเอเยนต์ขายยาเครายใหญ่ในย่านฝั่งธนบุรี โดยนำยาเคชนิดผงมาแปรรูปเป็นแบบน้ำขายให้กับวัยรุ่นโดยเปลี่ยนแหล่งผสมยาไปเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังสืบทราบว่านายวิเชียรยังติดคดีในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าอีกด้วย กระทั่งติดตามและพบนายวิเชียรที่บ้านพักหลังดังกล่าว ก่อนที่ตำรวจจะสะกดรอยตามขณะที่นายวิเชียรออกจากบ้านพัก และจับกุมนายวิเชียรได้ที่บริเวณถนนกำนันแม้น แขวงบางหว้า ก่อนที่จะสารภาพว่าขายยาเคจริง และมีของกลางอีกจำนวนมากซุกซ่อนไว้ที่บ้านพัก จึงนำตัวไปตรวจค้นยังบ้านพักและพบผู้ต้องหาที่เหลือจึงจับกุมพร้อมกับยึดยาเคทั้งหมดไว้

จากการสอบสวนนายวิเชียร ผู้ต้องหาให้การว่าได้รับการติดต่อจากนักโทษชายคนหนึ่งในเรือนจำให้นำยาเคไปขาย ซึ่งจะได้ค่าตอบแทนเป็นเงิน 50 บาทต่อยาเคชนิดน้ำ 1 ขวด หรือ 7 หมื่นบาทต่อยาเคชนิดผง 1 กก. ส่วนผู้ต้องหารายอื่นๆ จะมีหน้าที่ช่วยกันผสมยาเคและบรรจุขวด รวมถึงนำไปส่งให้กับลูกค้า ซึ่งนายชาญณรงค์และนายเอ จะได้รับค่าจ้างในการผสมและผลิตยาเคเป็นเงินคนละ 4,000 บาท ส่วนนายคณากรจะได้รับค่าจ้าง 8,000 บาท ต่อยาเคชนิดผงที่ใช้ในการผลิต 1 กิโลกรัม โดยเงินที่ได้มาจะนำไปซื้อรถยนต์ เครื่องประดับ และเที่ยวเตร่ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังตามอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาทั้งรถยนต์ 2 คัน สร้อยคอทองคำ เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ และเงินสดในบัญชีธนาคารอีก 8 แสนบาท รวมมูลค่าที่ยึดทรัพย์สินกว่า 3 ล้านบาท

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ร่วมกันผลิตและมีวัตุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (ยาเค หรือเคตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต


ขวดบรรจุยาเคชนิดน้ำ

กำลังโหลดความคิดเห็น