หนุ่มใหญ่อ้างตัวเป็นคนสนิทนักการเมือง ใช้มีดปาดคอ เฉือนนิ้ว กรีดตาช่างภาพเนชั่น คาร้านคาราโอเกะ ซ.จรัญสนิทวงศ์ 22 ชาวบ้านในละแวกชี้ผู้ร้ายชอบทำตัวเป็นมาเฟีย
วันนี้ (21 มี.ค.) เวลา 16.30 น.ที่โรงพยาบาลศิริราช นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.เศกสิทธิ์ สุภาอ้วน ผกก.สน.บางกอกน้อย เข้าเยี่ยมอาการ นายพิทยา ทองอี้ ช่างภาพข่าวสตูดิโอสังกัดเนชั่นทีวี อายุประมาณ 40 ปี ที่ถูกคนร้ายอ้างตัวเป็นคนสนิทนักการเมืองใช้มีดปาดคอ กรีดใต้ตาขวา และเฉือนนิ้ว
นายพิทยา ผู้บาดเจ็บกล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 20 มี.ค.เวลาประมาณ 22.30 น.หลังจากที่ตนขี่จักรยานยนต์รับจ้างซึ่งเป็นอาชีพเสริมหารายได้หลังเลิกงาน เนื่องจากบิดาและมารดาป่วยเป็นอัมพาต โดยก่อนเกิดเหตุตนมานั่งรับประทานอาหารที่ร้านคาราโอเกะ ภายในซอยจรัญสนิทวงศ์ 22 ได้มีคนร้ายซึ่งนั่งอยู่โต๊ะข้างๆ เดินเข้ามาถามตนว่ารู้จักกันหรือไม่ เมื่อตอบกลับว่ารู้จัก คนร้ายใช้มีดปาดคอและตัดนิ้วตนโดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แม้เจ้าของร้านพยายามจะเข้ามาห้ามปรามและช่วยเหลือ แต่คนร้ายยังใช้ความพยายามทำร้ายร่างกายซ้ำอีก ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีของชาวบ้านในละแวกดังกล่าวว่า คนร้ายมีพฤติกรรมชอบวางตัวเป็นมาเฟีย มักอ้างตัวเป็นคนขับรถให้กับนักการเมืองคนหนึ่ง และชอบเอาปืนมาโชว์ ข่มขู่ ไม่ยอมจ่ายเงินค่าอาหารอีกด้วย
ขณะที่ นายแพทย์อนุชิต เลิศศิริธง ศัลยแพทย์อุบัติเหตุโรงพยาบาลศิริราช เปิดเผยอาการว่า นายพิทยาถูกของแหลมคมคล้ายมีด ปาดเข้าไปหลายจุดบริเวณคอ ความยาวจุดละประมาณ 5 เซนติเมตร รวมถึงตาด้านขวาโดนของมีคมปาดความยาว 0.5 เซนติเมตร นิ้วชี้ด้านซ้ายมีเนื้อถูกเฉือนออกบางส่วนไม่ส่งผลกระทบต่อเส้นเอ็น หากแผลไม่ติดเชื้อ จะใช้เวลารักษาตัวไม่เกิน 3 วัน จึงจะกลับบ้านได้
ทางด้าน พ.ต.อ.เศกสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายยุทธนา พิพิธนิพนธ์ อายุ 45 ปี ผู้ก่อเหตุได้แล้ว เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกาย และจิตใจ พกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และสอบปากคำเพิ่มเติมแล้ว หากแพทย์ระบุว่าผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม
ด้าน พ.ต.ท.อดิเรก อติสัจจา สว.สส.สน.บางกอกน้อย กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุตนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่ร้านดังกล่าว ทราบว่าคนที่แทงนายพิทยาคือ นายยุทธนา หรือจิ๋ว พิพิธนิพนธ์ อายุ 45 ปี จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุทราบว่า ทั้งคู่นั้นรู้จักกันโดยก่อนเกิดเหตุนายยุทธนาได้นั่งดื่มสุรากับเพื่อนของนายพิทยา จากนั้นนายพิทยาได้เดินเข้าไปทักทาย และไม่รู้ว่าทั้งคู่ได้พูดคุยกันเรื่องใด ก่อนที่นายยุทธนาจะใช้มือผลักนายพิทยาจนล้ม แล้วชักมีดพกที่พกติดตัวมาจ้วงแทงนายพิทยาแล้วหลบหนี ส่วนนายพิทยาพลเมืองดีได้ช่วยกันนำตัวส่ง รพ.ศิริราช เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย และพกพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรกับนายยุทธนา
โดย นายยุทธนา ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนแทงนายพิทยา และไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่งและรู้จักกับนายพิทยา แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ต่างยืนยันว่าคนก่อเหตุ คือนายยุทธนา และทางเจ้าหน้าที่ก็ได้สอบปากคำนายพิทยาเบื้องต้นแล้วว่าคนแทงถือนายยุทธนา ส่วนสาเหตุนั้นน่าจะมาจากอาการเมาสุราจากนั้นเจ้าหน้าที่ทำการเรียกตัวนายยุทธนามารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมคือ พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพกพาอาวุธมีดติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร