ตำรวจปทุมธานีรวบโจรโรคจิตปีนระเบียงขโมยชุดชั้นในนักศึกษาสาว เหยื่อตื่นขึ้นมาเห็นจึงถูกกระหน่ำชก แล้วใช้กางเกงในอุดปาก ตีด้วยขวดเหล้า มัดมือด้วยสายเตารีด ใช้ชุดชั้นในมัดปากอีกครั้ง ก่อนใช้ผ้าห่มคลุมหัวแล้วหลบหนีไป
วันนี้ (2 มี.ค.) พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.สุนทร หิมารัตน์ ผกก.สส.ภ.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.เพิ่มเกียรติ สุริยวงษ์ ผกก.สภ.คลองหลวง ร่วมแถลงข่าวจับกุมตัว นายนัฐกร หรือนัท กัมนุฬา อายุ 27 ปี พนักงานขับรถยนต์ให้ผู้บริหารชาวต่างชาติ อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 9 ต.หนองขวาง อ.ศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ผู้ต้องหาฆ่า น.ส.รวีวรรณ หรือเมย์ พวงทอง อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ภายในหอพักแห่งหนึ่งใน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา พร้อมของกลางกางเกงขาสั้นลายพราง 1 ตัว และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง โดยจับกุมได้ภายในหอพักที่เกิดเหตุ
พล.ต.ท.นเรศกล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้เชิญตัวนายนัฐกร ซึ่งพักอยู่ตรงข้ามกับห้องของ น.ส.รวีวรรณมาสอบสวน จากการสอบสวนนายนัฐกรมีอาการพิรุธ จึงขอตรวจร่างกายพบว่าบริเวณท้องและลำคอมีร่องรอยขีดข่วน เจ้าหน้าที่จึงทำการสอบสวนอย่างเคร่งเครียด กระทั่งนายนัฐกรยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง
นายนัฐกรรับสารภาพว่า เมื่อช่วงเช้ามืดได้ปีนระเบียงไปหลังของห้องผู้ตายเพื่อขโมยกางเกงในที่ตากไว้ข้างระเบียงมาสูดดมสำเร็จความใคร่ แต่ผู้ตายตื่นขึ้นมาเห็นเข้าจึงลงมือทำร้ายร่างกายโดยการต่อยหลายครั้ง จากนั้นใช้เข่ากดที่หน้าอกของผู้ตาย พร้อมทั้งใช้กางเกงในของผู้ตายอุดปาก แต่กลับถูกผู้ตายข่วน จึงเอาขวดเหล้าฟาดเข้าที่ใต้คาง 1 ครั้ง แล้วใช้สายเตารีดรัดมือของผู้ตายไว้เพื่อไม่ให้ขัดขืน จากนั้นได้นำชุดชั้นในอีกตัวมัดปากของผู้ตายแล้วใช้ผ้าห่มคลุมหัวไว้ก่อนที่จะหลบหนีไป กระทั่งถูกจับกุมดังกล่าว
“ก่อนหน้านี้ผมเคยก่อเหตุขโมยชุดชั้นในหญิงสาวที่ตากไว้หลังระเบียงของอพาร์ตเมนต์ดังกล่าวมาดมเพื่อสำเร็จความใคร่ นอกจากนี้ยังได้หยิบเอาทรัพย์สินมีค่าอีกด้วย โดยก่อเหตุมาแล้ว 3 ครั้ง โดยที่ภรรยาไม่ทราบมาก่อน” นายนัฐกรกล่าว
ต่อมานายนัฐกรได้ขอขมากับนางเตือนใจ พวงทอง มารดาของผู้เสียชีวิต ขณะมาดูการแถลงข่าว แต่ถูกนางเตือนใจใช้เท้าเตะเข้าที่ใบหน้า พร้อมทั้งกล่าวว่าไม่อโหสิกรรมให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าห้ามปรามก่อนที่จะแยกตัวผู้ต้องหาออกมาด้านนอก
จากนั้นได้นำตัวนายนัฐกรไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 100 นายดูแลความปลอดภัยท่ามกลางกลุ่มญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต และเพื่อนนักศึกษากว่า 500 คนที่พยามยามเข้ามารุมประชาทัณฑ์ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน
วันนี้ (2 มี.ค.) พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.สุนทร หิมารัตน์ ผกก.สส.ภ.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.เพิ่มเกียรติ สุริยวงษ์ ผกก.สภ.คลองหลวง ร่วมแถลงข่าวจับกุมตัว นายนัฐกร หรือนัท กัมนุฬา อายุ 27 ปี พนักงานขับรถยนต์ให้ผู้บริหารชาวต่างชาติ อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 9 ต.หนองขวาง อ.ศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ผู้ต้องหาฆ่า น.ส.รวีวรรณ หรือเมย์ พวงทอง อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ภายในหอพักแห่งหนึ่งใน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา พร้อมของกลางกางเกงขาสั้นลายพราง 1 ตัว และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง โดยจับกุมได้ภายในหอพักที่เกิดเหตุ
พล.ต.ท.นเรศกล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้เชิญตัวนายนัฐกร ซึ่งพักอยู่ตรงข้ามกับห้องของ น.ส.รวีวรรณมาสอบสวน จากการสอบสวนนายนัฐกรมีอาการพิรุธ จึงขอตรวจร่างกายพบว่าบริเวณท้องและลำคอมีร่องรอยขีดข่วน เจ้าหน้าที่จึงทำการสอบสวนอย่างเคร่งเครียด กระทั่งนายนัฐกรยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง
นายนัฐกรรับสารภาพว่า เมื่อช่วงเช้ามืดได้ปีนระเบียงไปหลังของห้องผู้ตายเพื่อขโมยกางเกงในที่ตากไว้ข้างระเบียงมาสูดดมสำเร็จความใคร่ แต่ผู้ตายตื่นขึ้นมาเห็นเข้าจึงลงมือทำร้ายร่างกายโดยการต่อยหลายครั้ง จากนั้นใช้เข่ากดที่หน้าอกของผู้ตาย พร้อมทั้งใช้กางเกงในของผู้ตายอุดปาก แต่กลับถูกผู้ตายข่วน จึงเอาขวดเหล้าฟาดเข้าที่ใต้คาง 1 ครั้ง แล้วใช้สายเตารีดรัดมือของผู้ตายไว้เพื่อไม่ให้ขัดขืน จากนั้นได้นำชุดชั้นในอีกตัวมัดปากของผู้ตายแล้วใช้ผ้าห่มคลุมหัวไว้ก่อนที่จะหลบหนีไป กระทั่งถูกจับกุมดังกล่าว
“ก่อนหน้านี้ผมเคยก่อเหตุขโมยชุดชั้นในหญิงสาวที่ตากไว้หลังระเบียงของอพาร์ตเมนต์ดังกล่าวมาดมเพื่อสำเร็จความใคร่ นอกจากนี้ยังได้หยิบเอาทรัพย์สินมีค่าอีกด้วย โดยก่อเหตุมาแล้ว 3 ครั้ง โดยที่ภรรยาไม่ทราบมาก่อน” นายนัฐกรกล่าว
ต่อมานายนัฐกรได้ขอขมากับนางเตือนใจ พวงทอง มารดาของผู้เสียชีวิต ขณะมาดูการแถลงข่าว แต่ถูกนางเตือนใจใช้เท้าเตะเข้าที่ใบหน้า พร้อมทั้งกล่าวว่าไม่อโหสิกรรมให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าห้ามปรามก่อนที่จะแยกตัวผู้ต้องหาออกมาด้านนอก
จากนั้นได้นำตัวนายนัฐกรไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 100 นายดูแลความปลอดภัยท่ามกลางกลุ่มญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต และเพื่อนนักศึกษากว่า 500 คนที่พยามยามเข้ามารุมประชาทัณฑ์ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน