จ่อยิงศีรษะนายหน้าซื้อ-ขายรถยนต์มือสองดับสยองคาร้านอาหารย่านรามอินทรา พยานเผยก่อนเกิดเหตุผู้ตายกับกลุ่มคนร้ายนัดมาคุยธุรกิจซื้อขายรถกันที่ร้านดังกล่าวแต่คุยไม่ลงตัวจึงใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิต ก่อนขึ้นฟอร์จูนเนอร์สีขาวขับหลบหนีไป
วานนี้ (1 มี.ค.) เมื่อเวลา 21.00 น. ร.ต.ท.ดามพวร ทองอิ่ม พนักงานสอบสวน สน.บางเขน รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต ภายในร้านอาหารไทย-อีสานชื่อ “ไฝทอง” สาขารามอินทรา ปากซอยรามอินทรา 4/3 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น.
ที่เกิดเหตุพบศพ นายคเณศ เลิศไกร อายุ 48 ปี ชาว อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช อาชีพซื้อขายรถยนต์มือสอง สภาพศพนอนหงายสวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว สูทสีครีมทับข้างนอก สวมกางเกงยีนส์ รองเท้าหนังสีแดง ใกล้กันพบ น.ส.แคทลียา ล้ำบริสุทธิ์ อายุ 21 ปี ยืนตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว จากการตรวจสอบพบว่าผู้ตายถูกยิงที่ศรีษะ 2 นัด ส่วนบริเวณพื้นพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.4 ปลอก และภายในตัวผู้ตายยังพบสร้อยคอทองคำสวมใส่อยู่ 1 เส้น เลสทองคำข้อมือ 1 เส้น แหวนทองคำ 2 วง น้ำหนักรวมกว่า 10 บาท และนาฬิกาข้อมือ 1 เรือน นอกจากนี้ยังพบรถยนต์คัมรี่ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน 1 กน 2232 กรุงเทพมหานคร ของผู้ตายจอดอยู่ที่บริเวณหน้าร้าน
จากการสอบสวนนายภาคภูมิ เธียนประสิทธิ์ อายุ 29 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ตนเองพร้อมเพื่อน 3 คนได้เข้ามานั่งดื่มกินภายในร้านดังกล่าว หลังจากนั้นไม่นานได้มีกลุ่มคนร้ายเดินเข้ามาในร้านจำนวน 5 คนเป็นผู้ชาย 4 คน และผู้หญิง 1 คน และนั่งถัดจากโต๊ะตนเองไป 3 โต๊ะ ระหว่างนั้นก็ได้คุยกันเกี่ยวกับเรื่องซื้อขายรถยนต์ประมาณ 5 นาที ก่อนที่ผู้ชายในกลุ่มที่มาด้วยจำนวน 3 คน ลุกออกไปด้านนอกประมาณ 2 นาที แล้วย้อนกลับมายิงผู้ตาย ก่อนทั้งหมดจะวิ่งขึ้นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับหลบหนีมุ่งหน้าไปทางถนนรามอินทรา
พล.ต.ต.ปริญญากล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมานายคเณศผู้ตายและคนร้ายได้ไปนั่งคุยเรื่องธุรกิจซื้อขายรถยนต์ภายในห้างบิ๊กซี สาขารามอินทรา แล้วมานั่งกินกันต่อที่ร้านดังกล่าว แต่คุยธุรกิจกันไม่ลงตัวจึงใช้อาวุธปืนยิงนายคเณศจนเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนเพื่อนสาวผู้ตายที่อยู่ด้วยนั้นขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนว่ามีส่วนรู้เห็นกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่ เพื่อจะได้เร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป