ตร.เร่งหาตัวหลานแสบต้องสงสัยงัดตู้เซฟมาสอบปากคำ

ตร.มักกะสันเร่งควานหาหลานตัวแสบงัดตู้เซฟยาย กวาดทรัพย์สินนับล้าน ปิดโทรศัพท์มือถือหนี เร่งเก็บลายนิ้วมือแฝง เบื้องต้นคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 2 คน

วันนี้ (18 ก.พ.) ร.ต.ท.พรปรีชา ไชยกาล พนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน เปิดเผยความคืบหน้า จากกรณีคนร้ายเข้าไปงัดเซฟของนางสายหยุด เอี่ยมจำรัส อายุ 77 ปี เศรษฐินีที่ดิน ภายในบ้านเลขที่ 56 ถนนพระราม 9 ซอย 2 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม. โดยกวาดทรัพย์สินไปหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท โดยสงสัยว่านายไตรภาค เอี่ยมจำรัส อายุ 37 ปี หลานชายที่เพิ่งพาเพื่อนมาเที่ยวที่บ้านรู้เห็นกับเหตุการณ์ครั้งนี้ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นว่า เบื้องต้นนางสายหยุดยังคงสงสัยพฤติกรรมของหลานชายว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะก่อนเกิดเหตุนายไตรภาคได้พาเพื่อนๆ มาเที่ยวที่บ้านพอถัดมาอีก 1 วันก็ปรากฏว่าตู้เซฟของนางสายหยุดถูกงัดแล้วขโมยทรัพย์สินไปกว่า 1 ล้านบาท จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อนายไตรภาคได้อีกเลย

ร.ต.ท.พรปรีชากล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุได้นำญาติทั้ง 4 คนที่อยู่บ้านติดกับนางสายหยุดมาสอบปากคำ พร้อมเก็บลายนิ้วมือไว้หมดแล้ว เบื้องต้นไม่มีใครมีพิรุธหรือน่าสงสัยแต่อย่างใด เหลือเพียงนายไตรภาค เอี่ยมจำรัส อายุ 37 ปี หลานชายของนางสายหยุดที่ยังไม่สามารถติดต่อได้ เนื่องจากนายไตรภาคไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่นี่ จะเข้ามาที่บ้านของนางสายหยุดเป็นครั้งคราวเท่านั้น และไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งรวมทั้งปิดโทรศัพท์มือถือด้วย ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนกำลังติดตามตัวนายไตรภาคมาให้ปากคำอยู่

ร.ต.ท.พรปรีชากล่าวต่ออีกว่า ส่วนกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงตรวจสอบแล้วไม่มี จึงต้องรอผลตรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือแฝงคนร้ายในที่เกิดเหตุก่อนประมาณ 10-15 วันถึงจะทราบผลว่าคนร้ายเป็นใครและมีทั้งหมดกี่คน แต่เบื้องต้นคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 2 คน ซึ่งคดีนี้ทางผู้บังคับบัญชาได้กำชับให้จับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว ซึ่งฝ่ายสืบสวนก็กำลังเร่งติดตามตัวนายไตรภาค และหาพยานแวดล้อมเพิ่มเติมอยู่ เพื่อให้ได้ตัวคนร้ายโดยเร็วที่สุด