ตำรวจ สน.ท่าข้าม รับแจ้งเหตุคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ภายในบ้าน ผอ.โรงเรียนเสริมสวยคุณโจ ทรัพย์สินหลายรายการ่พรร้อมเงินสด 4 หมื่นบาทหายไป เจ้าของบ้านคาดสาวใช้ลาวตัวแสบที่เพิ่งถูกไล่ออกไปชี้เป้าโจร!!!
วันนี้ (12 ก.พ.) เมื่อเวลา 08.30 น. ร.ต.ท.ไพโรจน์ จิตรรังสี พนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม รับแจ้งเหตุคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ภายในบ้านเลขที่ 17/1 ซ.พระราม 2 ซ.50 แยก 5 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.ธนเดช ทีนาคะ สวป.สน.ท่าข้าม ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทรงยุโรป 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด อยู่ในเนื้อที่ประมาณ 100 ตารางวา เจ้าหน้าที่พบเจ้าของบ้าน คือ นางกานต์รวี เอี่ยมชมนาค อายุ 49 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนเสริมสวยคุณโจ ยืนรอให้การด้วยอาการตื่นตระหนกว่า บ้านตนถูกคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ อาทิ พวงกุญแจพร้อมกับโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกียที่วางอยู่คู่กันหายไป เสื้อผ้าซึ่งวางอยู่ในตะกร้าถูกรื้อค้นกระจายเกลื่อน โทรทัศน์ยี่ห้อโซนี่ขนาด 42 นิ้ว ที่วางอยู่ในห้องรับแขกหายไป โต๊ะทำงานถูกรื้อค้น เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเงินสดเกือบ 4 หมื่นบาทถูกขโมยไป
นางกานต์รวีกล่าวอีกว่า โดยปกติบ้านตนจะมีคนอยู่ช่วงกลางวันของทุกวันประมาณ 6 คน แต่ช่วงกลางคืนจะมีนายพจน์ เอี่ยมชมนาค อายุ 72 ปี พ่อตนอยู่เฝ้าบ้านเพียงลำพัง ช่วงก่อนเกิดเหตุพ่อตนตื่นมาตอนช่วงประมาณ 04.30 น. กำลังจะเอาพวงกุญแจที่วางอยู่ที่เคาน์เตอร์ชั้นล่างไปเปิดประตูด้านหลังบ้าน จึงพบว่าพวงกุญแจพร้อมกับโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกียที่วางอยู่คู่กันหายไป สำหรับทรัพย์สินตนไม่ค่อยซีเรียสเท่าไร แต่กลัวว่าคนร้ายจะเข้ามาทำร้ายคนในบ้านมากกว่า ส่วนตัวคิดว่าน่าจะปีนเข้ามาทางกำแพงด้านข้างที่ติดกับอยู่สบายแมนชั่น และเข้ามาในบ้านด้วยการใช้กุญแจผีไขประตูกระจกด้านหลังบ้าน แถมยังทำกุญแจหักคาช่องกุญแจไว้ด้วย บนโซฟาในห้องรับแขกคนร้ายยังเอาสูทของตนมาวางทิ้งไว้คล้ายกับว่าจะเอามาคลุมศีรษะเพื่อจะหลบกล้องวงจรปิดเพื่อขึ้นไปบนชั้น 2
จาการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ทั้งหมด 4 จุด คือ จุดแรกที่ลานจอดรถถูกคนร้ายหันกล้องหลบขึ้นไปบนเพดาน จุดที่ 2 อยู่ด้านหลังบ้านก็ถูกคนร้ายใช้ที่โกยขยะบังหน้าเลนส์ไว้ ส่วนตัวที่ 3 ที่ติดอยู่เชิงบันไดชั้น 2 ชำรุด และตัวที่ 4 ที่ติดอยู่ตรงเคาน์เตอร์ก็ถูกคนร้ายใช้หมวกเนตรนารีและผ้าขนหนูขึ้นไปคลุมเอาไว้ เมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายเป็นชายสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้า กางเกงยีนส์ รองเท้าแตะหูคีบสีดำ สวมหมวกปีกคล้ายหมวกเดินป่า มีผ้าปิดปากสีขาวอำพรางใบหน้า ขาด้านซ้ายพิการ แอบเข้าไปในบ้านช่วงประมาณ 03.30 น. ริมกำแพงใกล้กับที่จอดรถ แล้วรีบเอาเก้าอี้ที่วางไว้มาเหยียบขึ้นไปหันกล้องวงจรปิด แล้วเดินอ้อมไปด้านหลังบ้านเอาที่โกยขยะขึ้นไปบังกล้อง ต่อจากนั้นเข้าไปในบ้านมองหากล้องวงจรปิด ก่อนจะเอาเก้าอี้รองขึ้นไปใช้ผ้าขนหนูและหมวกเนตรนารีคลุมกล้องที่เหนือเคาน์เตอร์ หลังจากนั้นจึงลงมือก่อเหตุ
“เมื่อประมาณเดือน ต.ค.ปีที่ผ่านมา ได้ไล่คนงานสาวชาวลาวออกจากบ้าน เนื่องจากมีพฤติกรรมไม่ดี ชอบคบหาผู้ชายไม่ซ้ำหน้า ออกจากบ้านไปตั้งแต่ช่วงค่ำ กลับเข้ามาบ้านอีกทีเกือบเช้า เกรงว่าจะเป็นการชักศึกเข้าบ้านจึงรีบตัดไฟแต่ต้นลม และเมื่อช่วงต้นปียังถูกคนร้ายแอบเข้ามาลักรองเท้าแบรนด์เนมหลายคู่ที่วางอยู่หน้าบ้าน จึงตัดสินใจติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อล้อมคอก แต่ก็ยังมาถูกคนร้ายเข้ามาก่อเหตุอีกจนได้ แม้จะมีตู้แดงของตำรวจ สน.ท่าข้ามติดไว้หน้าบ้านก็ตาม แต่ตำรวจก็มาตรวจช่วงประมาณ 03.00 น. จึงคาดว่าคนร้ายน่าจะรอจังหวะให้ตำรวจตรวจพื้นที่ผ่านไปก่อนจึงลงมือก่อเหตุ” นางกานต์รวีกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพอจะรู้ตัวคนร้ายบ้างแล้ว เนื่องจากมีบุคลิกภาพที่ชัดเจน และเป็นคนละแวกใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ แถมยังรู้จุดที่ติดตั้งกล้องวงจรปิดอีกด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงตามจุดต่างๆ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับผู้ต้องสงสัย คาดว่าจะได้ตัวมาดำเนินคดีเร็วนี้