ปคม.จับสองแม่เล้าร้านคาราโอเกะค้าประเวณีเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ย่านสมุทรปราการ ค่าบริการครั้งละ 1,500 บาท ส่วนเด็ก 15 ปี ค่าบริการพุ่งถึง 5,000 บาท โดยมีเด็กในสังกัดกว่า 10 คน
วันนี้ (12 ก.พ.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ประคัลภ์ แสงส่องฟ้า รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ยุทธภูมิ ปั้นลายนาค ผกก.2 บก.ปคม. แถลงข่าวจับกุม น.ส.ลลิตา โพธิ์ศรี อายุ 26 ปี เจ้าของร้านรากแก้วคาราโอเกะ ตั้งอยู่เลขที่ 107/31 หมู่ 3 ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ และ น.ส.สมศรี ศรีชำนาญ อายุ 36 ปี เจ้าของร้านกอหญ้าคาราโอเกะ เลขที่ 950/6 หมู่ 2 ถนนบางพลี-ตำหรุ ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
พล.ต.ต.ชวลิตกล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีการลักลอบค้าประเวณีหญิงสาวอายุต่ำกว่า 18 ปีภายในร้านคาราโอเกะทั้งสองแห่ง จึงวางแผนเข้าล่อซื้อบริการ โดยที่ร้านรากแก้วเรียกค่าบริการ 1,500 บาท นัดหมายพาหญิงสาว อายุ 17 ปีไปส่งที่โรงแรมสุขสวัสดิ์เกสท์เฮ้าส์ หมู่ 3 ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ ส่วนร้านกอหญ้าตกลงค่าบริการหญิงสาวอายุ 15 ปี ในราคา 5,000 บาท นัดหมายที่โรงแรมบางพลีพาเลซ เลขที่ 89 หมู่ 20 ถนนบางพลี-ตำหรุ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อมีการจ่ายเงินค่าบริการแล้ว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมแจ้งข้อหาค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีเด็ก
สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพ โดย น.ส.ลลิตา เจ้าของร้านรากแก้วรับว่าเปิดร้านดังกล่าวมาได้ประมาณ 1 ปีเศษ มีหญิงสาวคอยบริการลูกค้าอยู่ภายในร้านประมาณ 10 คน ขณะที่ น.ส.สมศรี เจ้าของร้านกอหญ้าให้การว่า เปิดร้านมาประมาณ 4 ปี โดยเป็นร้านที่ได้เช่าช่วงต่อ ส่วนเรื่องการให้บริการเป็นการตกลงกันระหว่างแขกที่มาใช้บริการกับพนักงานของร้าน ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้นำผู้ต้องหาทั้งสองส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคม.รับไว้ดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.ชวลิตกล่าวอีกว่า ขณะนี้ทาง บก.ปคม.ได้ระดมกำลังออกกวาดล้างขบวนการลักลอบค้ามนุษย์ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่เข้าสู่ช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ ตนจึงกำชับให้กองกำกับการ ทั้ง 1-6 เร่งจัดกำลังลงพื้นที่รับผิดชอบ โดยให้มีผลการดำเนินการจับกุมให้ได้อย่างน้อย 5 รายต่อเดือน ทำให้ทุกๆ เดือน ทาง บก.ปคม.จะออกกวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์ ไม่น้อยกว่า 30 ราย ทำให้ผู้ที่กระทำความผิด หรือคิดที่จะทำมีจำนวนลดน้อยลง นอกจากนี้ยังเป็นการกระตุ้นให้ตำรวจในท้องที่ต่างๆ ออกสืบสวนจับกุมผู้ลักลอบกระทำผิดเหล่านี้ให้หมดสิ้นไป