“ปวีณา” พร้อมด้วยผู้ปกครองพาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี บุกจับกุมโชเฟอร์แท็กซี่หื่นเปิดบ้านเป็นสถานรับเลี้ยงเด็กบังหน้า ข่มขืนลูกสาวที่นำมาฝากเลี้ยง
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 6 ก.พ. 2556 ที่ สภ.บางพลี นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นำนางเอ (นามสมมติ) อายุ 20 ปี และนางบี (นามสมติ) อายุ 37 ปี 2 สาวโรงงานทำขนมย่าน ต.บางปลา อ.บางพลี ซึ่งเป็นมารดาของเด็กหญิงวัย 1 ปี 9 เดือนและวัย 2 ขวบเศษ มาชี้ตัวยืนยันนายเพชรน้ำหนึ่ง หรือช้าง โตเอี่ยม อายุ 40 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ เลขที่ 93-94/2556 ในข้อหากระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามโดยใช้กำลังประทุษร้าย หลังถูก พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ ผกก.สภ.บางพลี พ.ต.ท.เชาว์ ป้องงาม รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.ภูววนาถ แก่นจันทร์ สว.สส.และกำลังฝ่ายสืบสวน ควบคุมตัวไว้ได้ที่บ้านเลขที่ 97/17 หมู่บ้านสินเพชร ม.11 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
โดยนางเอ (นามสมมติ) อายุ 20 ปี สาวโรงงานทำขนม เล่าว่า เนื่องจากตนและสามีต้องออกมาทำงานไม่มีใครเลี้ยงลูกน้อยวัย 1 ขวบ 9 เดือน เห็นว่าที่บ้านหลังนี้มี สามีภรรยาที่รับเลี้ยงเด็กจึงนำมาฝากเลี้ยงโดยเสียค่าใช้จ่ายเดือนละ 1,500 บาท แต่หลังจากที่นำมาฝากเลี้ยงได้ประมาณ 3 เดือน เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนได้อาบน้ำให้บุตรสาวสังเกตเห็นที่ก้นมีรอยช้ำตลอด แต่ยังไม่ได้เอะใจ จนกระทั่งมาเห็นว่าที่อวัยวะเพศของลูกมีรอยช้ำและฉีกขาด และลูกเป็นไข้อยู่ตลอดเวลาจึงพาไปหาหมอ ปรากฏว่าหมอตรวจพบร่องรอยการถูกกระทำชำเรา จึงสอบถามนางบี (นามสมติ) ซึ่งทำงานที่เดียวกัน และส่งลูกมาฝากเลี้ยงที่เดียวกัน ก็มีร่องรอยโดนกระทำชำเราเหมือนกันมาปรึกษา จึงคิดว่าควรไปร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ ให้มาช่วยเหลือและพามาแจ้งความ จากนั้นจึงทราบจากเพื่อนบ้านว่าเคยมีลูกของคนในละแวกเดียวกันถูกกระทำเช่นนี้แต่สองคนผัวเมียใช้เงินจำนวน 6,000 บาทปิดปากเรื่องเลยเงียบ แต่ตนไม่ยอมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ด้านนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กล่าวว่า หลังสาวโรงงานทั้ง 2 คนเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ เมื่อวันที่29 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่าบุตรสาวของทั้ง 2 คนถูกนายเพชรน้ำหนึ่ง ซึ่งเป็นสามีของคนที่ตนไปฝากเลี้ยงบุตรกระทำชำเราทางเพศ จึงประสานมายัง สภ.บางพลี เพื่อให้ติดตามจับกุมตัวมาสอบสวน และถึงแม้นายเพชรน้ำหนึ่งจะให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานแน่ชัด จึงเชื่อว่าจะนำตัวมาลงโทษได้ ส่วนมารดาและเด็กทั้ง 2 คนนั้นทางมูลนิธิปวีณาฯ จะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลและให้การช่วยเหลือต่อไป
ทั้งนี้ อยากฝากไปถึงรัฐบาลให้มีนโยบายให้ในสถานประกอบการหรือโรงงานต่างๆ ควรมีสถานที่สำหรับพนักงานที่มีลูกน้อย ให้สามารถนำเด็กมาเลี้ยงดูและให้นมได้ เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นตามสถานรับเลี้ยงเด็กโดยเฉพาะสถานรับเลี้ยงเด็กที่ไม่ถูกกฎหมาย
ส่วน พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ ผกก.สภ.บางพลี กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้นายเพชรน้ำหนึ่งให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่มีหลักฐานแน่ชัดทั้งผลการตรวจจากแพทย์ การพูดคุยกับเด็กทั้ง 2 คนต่อหน้าสหวิชาชีพ และนักสังคมสงเคราะห์ รวมทั้งประวัติเดิมที่นายเพชรน้ำหนึ่งเคยกระทำไว้ จึงเชื่อว่าจะสามารถเอาผิดต่อผู้ที่กระทำความผิดได้ และเบื้องต้นนั้นได้แจ้งข้อหาเปิดสถานรับเลี้ยงเด็กโดยไม่รับอนุญาตต่อนายเพชรน้ำหนึ่งแล้ว