ตร.เผยผลสืบสวนเหตุเพลิงไหม้ รร.แกรนด์ ทาวเวอร์ อินน์ พี่สาวพนักงานเสิร์ฟที่เสียชีวิตให้การตำรวจแล้วบอกเครียดมีปัญหาเรื่องงานก่อนเกิดเหตุ ตรวจบ้านพักพบข้อความน่าสงสัยที่ฝาผนัง “คนที่ชอบใช้อารมณ์ จงคิดไว้เสมอว่า สิ่งที่ได้กลับคืนมาจะต้องพินาศ”
วันนี้ (28 ม.ค.) พ.ต.อ.ธงชัย บุญสมบัติ ผกก.สน.สำเหร่ พ.ต.ท.ภัสพงษ์ บุตรไทย รอง ผกก.สส.สน.สำเหร่ พ.ต.ท.สายชล ปัญจชัย สว.สส.สน.สำเหร่ เดินทางไปที่ บก.น.8 เพื่อรายความคืบหน้าผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. กรณีที่เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงแรมแกรนด์ ทาวเวอร์ อินน์ ตั้งอยู่เลขที่ 359/1 ซอยเจริญนคร 14/2 ถนนเจริญนคร แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กทม. หลังเกิดเหตุไฟไหม้ทำนายพงศกร บุญอร่าม อายุ 45 ปี พนักงานเสิร์ฟของโรงแรมดังกล่าวสำลักควันเสียชีวิตอยู่ภายในห้อง 312 ชั้น 3 โดยทางผู้บริหารโรงแรมเชื่อว่าไฟไม้ครั้งนี้ไม่น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่น่าจะเกิดจากการลอบวางเพลิง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้นว่า หลังจากเกิดเหตุทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำนางมณีรัตน์ ตะเภาทอง พี่สาวของนายพงศกรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นางมณีรัตน์ให้การว่า เมื่อวันที่ 26 ม.ค. เวลาประมาณ 7.00 น. ผู้ตายได้โทรศัพท์มาหาตนและบ่นว่าเครียดเรื่องงานแต่ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าเครียดจากเรื่องอะไร แล้วน้องชายก็วางสายไป จากนั้นตนจึงไปหานางอาภัสรา ตะเภาทอง ซึ่งเป็นพี่สาวอีกคนของผู้ตาย ได้เล่าให้ฟังเบื้องต้น จากนั้นนางอาภัสราได้โทรศัพท์ไปหาผู้ตายเพื่อสอบถามว่าเครียดเรื่องอะไร ทางด้านผู้ตายก็ตอบว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้ว บอกแต่ว่าอยากกลับบ้านที่ จ.นครนายก ก่อนจะวางสายไป
ด้าน นางชนกชนม์ สุขขจรวงษ์ ผู้พักอาศัยที่ห้องพักเลขที่ 312 ของโรงแรมที่เกิดเหตุให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 22.00 น.ของวันที่ 26 ม.ค.ได้เข้าเช็กอินที่ห้องพักดังกล่าวพร้อมกับเพื่อนที่เป็นไกด์ชาวจีน 1 คน จากนั้นได้เดินทางออกไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อและก็กลับมายังห้องพัก กระทั่งเวลาประมาณ 01.00 น.วันที่ 27 ม.ค.ได้ยินเสียงกริ่งสัญญาณเตือนอัคคีภัยดังขึ้น จึงเปิดประตูมาดูพบห้องข้างเคียงได้เก็บกระเป๋าเสื้อผ้าออกจากห้อง จึงไปปลุกเพื่อนและได้พากันมาอยู่ที่บริเวณล็อบบี้ชั้น 2 ซึ่งระหว่างทางที่เดินลงมาพบว่าที่ชั้น 3 และชั้น 2 ยังเกิดเพลิงไหม้ จากนั้นนึกขึ้นได้ว่าลืมของไว้ที่ห้องพักจึงวิ่งกลับเข้าไปเอา เมื่อไปถึงห้องพักก็ยังไม่พบเพลิงลุกไหม้ภายในห้อง เมื่อได้ของจึงรีบออกมาโดยไม่ได้ล็อกประตูไว้ ระหว่างที่เดินลงมาจากบันไดหนีไฟพบเห็นแสงเพลิงบริเวณชั้น 3 และ ชั้น 2 จากด้านหลังของโรงแรมพร้อมกับมีเสียงระเบิดดังขึ้น
จากการสอบสวนนายสงกรานต์ จันทร์เดช รปภ.ของคอนโดมิเนียมเออวาโน่ แอบโซลูท ซึ่งกำลังก่อสร้างอยู่ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขณะตนเองกำลังจะเดินไปปัสสาวะ จากนั้นพบถังดับเพลิงขนาดเล็กสีแดงที่ติดตามอาคารน้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม ตกลงมาจากอาคารที่เกิดเหตุ ห่างจากตนประมาณ 1 เมตร ไม่นานก็ได้ยินเสียงสัญญาณเตือนอัคคีภัยดังขึ้นและก็เกิดเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว นอกกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังพบถังดับเพลิงดับตกอยู่บริเวณข้างโรงแรม 1 ถัง ไฟแช็กอยู่ในห้องน้ำซึ่งอยู่ใกล้ศพของผู้ตายตกอยู่ 1 อัน และปืนจุดเตาแก๊สตกอยู่บริเวณใกล้กับถังแก๊สซึ่งตั้งอยู่ห่างจากห้องเก็บของเพียงไม่กี่เมตร
พ.ต.อ.ธงชัยกล่าวว่า ได้สอบสวนนางชนกชนม์อีกครั้ง ทราบว่านางชนกชนม์และเพื่อนไม่ได้เป็นคนที่สูบบุหรี่และไม่มีไฟแช็ก จึงเชื่อว่าไฟแช็กดังกล่าวนั้นน่าจะเป็นของผู้ตาย ส่วนผู้ตายจะเป็นคนวางเพลิงหรือไม่นั้นต้องรอผลพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และตรวจสอบกล้องจงปิดอย่างละเอียดอีกครั้งจึงจะทราบว่าผู้ตายเป็นคนลงมือหรือไม่ เพียงแต่ตอนนี้ผู้ตายเป็นเพียงผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งเท่านั้น
พร้อมกันนี้ทางฝ่ายสืบสวนนำโดย พ.ต.ท.ภัสพงษ์ บุตรไทย รอง ผกก.สส.สน.สำเหร่ พ.ต.ท.สายชล ปัญจชัย สว.สส.เข้าไปตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 757 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 12 แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ ซึ่งเป็นบ้านพักของนายพงศกร ที่ฝาผนังในห้องนอนพบมีข้อความเขียนไว้ ซึ่งมีใจความว่า “คนที่ชอบใช้อารมณ์ จงคิดไว้เสมอว่า สิ่งที่ได้กลับคืนมาจะต้องพินาศ”