ตร.นัดหารืออัยการขอปรึกษาข้อกฏหมาย เดินหน้าโครงการสร้างโรงพักเกือบ 400 แห่งทั่วประเทศ ในงบไทยเข้มแข็ง
วันนี้(15ม.ค.)สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงถึงกรณีตรวจสอบติดตามการดำเนินการก่อสร้างอาคารสถานีตำรวจ 396 แห่ง ทั่วประเทศ ในงบโครงการไทยเข้มแข็ง ที่ยังไม่แล้วเสร็จ ว่า ล่าสุด พล.ต.อ.วงพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร. ที่เป็นประธานในการตรวจสอบกรณีนี้ ได้สรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น โดยมีความเห็นว่าตร.จะต้องมีการทบทวนเรื่องสัญญากับบริษัทรับเหมา (บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด) ซึ่งครบกำหนดสัญญาไปเมื่อวันที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถสร้างแล้วเสร็จ หรือส่งมอบได้สักแห่ง โดยพบข้อเท็จจริงเบื้องต้นพบว่า หลายแห่งการก่อสร้างแต่ละขั้นตอนไม่เป็นไปตามกำหนด ขณะที่บางแห่งก็พบว่าผู้รับเหมามีการส่งงานต่อให้ซับคอนแทค ซึ่งตรงนี้ตร.ต้องตรวจสอบในรายละเอียดข้อเท็จจริงเป็นรายกรณี เพราะแต่ละแห่งก็มีเงื่อนไขไม่เหมือนกัน โดยต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า ในเวลา 13.30 น. วันที่ 16 มกราคม พล.ต.อ.วรพงษ์ ได้เชิญตัวแทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด มาที่ตร.เพื่อขอหารือในข้อกฎหมาย เรื่องสัญญาดังกล่าว โดยจะต้องขอคำปรึกษาถึงแง่มุมต่างๆในการบอกเลิกสัญญา รวมถึงการเยียวยา การชดเชย ชดใช้ ทั้งนี้ตร.ต้องทำรอบคอบ และไม่ได้นิ่งนอนในหรือจงใจปล่อยให้โครงการก่อสร้างล่าช้า แต่เนื่องจากติดขัดปัญหาหลายด้าน ทั้งนี้ในการตรวจสอบการก่อสร้างจะมีการตรวจสอบครบคลุมไปถึงโครงการสร้างแฟลตพักอาศัยด้วย แต่โครงการดังกล่าวหลายแห่งเสร็จตามสัญญา ไม่มีปัญหา
วันนี้(15ม.ค.)สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงถึงกรณีตรวจสอบติดตามการดำเนินการก่อสร้างอาคารสถานีตำรวจ 396 แห่ง ทั่วประเทศ ในงบโครงการไทยเข้มแข็ง ที่ยังไม่แล้วเสร็จ ว่า ล่าสุด พล.ต.อ.วงพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร. ที่เป็นประธานในการตรวจสอบกรณีนี้ ได้สรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น โดยมีความเห็นว่าตร.จะต้องมีการทบทวนเรื่องสัญญากับบริษัทรับเหมา (บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด) ซึ่งครบกำหนดสัญญาไปเมื่อวันที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถสร้างแล้วเสร็จ หรือส่งมอบได้สักแห่ง โดยพบข้อเท็จจริงเบื้องต้นพบว่า หลายแห่งการก่อสร้างแต่ละขั้นตอนไม่เป็นไปตามกำหนด ขณะที่บางแห่งก็พบว่าผู้รับเหมามีการส่งงานต่อให้ซับคอนแทค ซึ่งตรงนี้ตร.ต้องตรวจสอบในรายละเอียดข้อเท็จจริงเป็นรายกรณี เพราะแต่ละแห่งก็มีเงื่อนไขไม่เหมือนกัน โดยต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า ในเวลา 13.30 น. วันที่ 16 มกราคม พล.ต.อ.วรพงษ์ ได้เชิญตัวแทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด มาที่ตร.เพื่อขอหารือในข้อกฎหมาย เรื่องสัญญาดังกล่าว โดยจะต้องขอคำปรึกษาถึงแง่มุมต่างๆในการบอกเลิกสัญญา รวมถึงการเยียวยา การชดเชย ชดใช้ ทั้งนี้ตร.ต้องทำรอบคอบ และไม่ได้นิ่งนอนในหรือจงใจปล่อยให้โครงการก่อสร้างล่าช้า แต่เนื่องจากติดขัดปัญหาหลายด้าน ทั้งนี้ในการตรวจสอบการก่อสร้างจะมีการตรวจสอบครบคลุมไปถึงโครงการสร้างแฟลตพักอาศัยด้วย แต่โครงการดังกล่าวหลายแห่งเสร็จตามสัญญา ไม่มีปัญหา
