คนสนิท “ดำรงค์ พิเดช” ฟ้องอธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งเด้งไปเป็นผู้ตรวจราชการมิชอบ ระบุเป็นอำนาจปลัดกระทรวง ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง 18 มี.ค.นี้
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (9 ม.ค.) นายวิทยา หงษ์เวียงจันทร์ อายุ 52 ปี มอบอำนาจให้ทนายความยื่นฟ้องนายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม และนายไพบูลย์ รัตนะเจริญธรรม ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง กรมอุทยานฯ เป็นจำเลยที่ 1-2 ตามลำดับในความผิดฐานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2555 นายมโนพัศ จำเลยที่ 1 ได้ลงนามในคำสั่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โยกย้ายโจทก์ซึ่งขณะนั้น เป็นผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และนายไพศาล สถิตวิบูรณ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า ไปเป็นผู้ตรวจราชการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ทั้ง 2 คน โดยมีนายไพบูลย์ จำเลยที่ 2 เป็นผู้จัดทำคำสั่งดังกล่าวให้จำเลยที่ 1 ลงนาม
การกระทำของจำเลยทั้งสอง เป็นการกลั่นแกล้งโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ขาดความน่าเชื่อถือ ได้รับความอับอาย เนื่องจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการที่จำเลยที่ 1 ออกคำสั่งให้โจทก์ไปรักษาราชการนั้น มีเกียรติและศักดิ์ศรี ด้อยกว่าตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักโจทก์ครองอยู่ ทำให้ข้าราชการและประชาชนเข้าใจผิดคิดว่าโจทก์กระทำผิดหรือมีข้อบกพร่องในการปฏิบัติราชการ ทั้งที่โจทก์ไม่มีความผิดและไม่มีข้อบกพร่องใดๆ อีกทั้งจำเลยทั้งสองทราบดีอยู่แล้วว่าไม่มีอำนาจสั่งย้ายโจทก์ได้ เนื่องจากเป็นอำนาจของปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157และตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2552 มาตรา 82 (2) และมาตรา 85 (1)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักอุทยานฯ ถือเป็นหน่วยงานที่มีความสำคัญ เนื่องจากคุมทั้งงบประมาณและกำลังคนของกรมอุทยานฯ จำนวนมาก ทั้งนี้สาเหตุที่นายวิทยาถูกย้ายเนื่องจากเป็นคนใกล้ชิดของนายดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ ซึ่งถือเป็นขั้วอำนาจเก่า
ทั้งนี้ ศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณา และนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์วันที่ 18 มี.ค.นี้ เวลา 09.00 น.