สมุทรปราการ - ชายวัย 60 ปีติดพันสาวใหญ่ลูกสอง-ผัวราชการ เคลียร์ปัญหารักไม่ลงตัว ลั่นปืน .38 ยิงสาวใหญ่ดับหลังพยายามตีจาก ก่อนเอาอาวุธปืนมรณะปลิดชีพตัวเองตายตามศพคาโรงแรมม่านรูด!
เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 8 มกราคม 2556 ร.ต.ท.อำพร สพานหล้า พนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง จ.สุมทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตจำนวน 2 ศพ ภายในโรงแรมม่านรูดชื่อฮิปโฮเต็ล ซอยสุขสวัสดิ์ 47 ถ.สุขสวัสดิ์ ต.บางครุ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมม่านรูดฮิปโฮเต็ล อาคารชั้นเดียวปลูกติดกันหลายห้อง ภายในห้องเลขที่ 63 พบศพนางอุษา พิมกลาง อายุ 42 ปี สภาพศพนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บริเวณหน้าประตูภายในห้องดังกล่าว โดยผู้ตายสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ขายาว ตรวจสอบพบบาดแผลถูกยิงที่ขมับด้านขวา 1 นัด โหนกแก้ม 1 นัด และที่กลางหน้าอกอีก 2 นัด และยังรอยเฉี่ยวที่ต้นคออีก 1 แผล นอกจากนี้ ที่บริเวณเตียงนอนภายในห้องเจ้าหน้าที่พบศพนายไพศาล บุญกลัด อายุ 60 ปี นอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บนที่นอน โดยผู้ตายสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวลายสกอต กางเกงยีนส์ขายาว พบบาดแผลถูกยิงที่ขมับด้านขวาทะลุซ้ายด้วยอาวุธปืนขนาด .38 ลูกโม่ยังตกอยู่บนลำตัวของผู้ตาย ตรวจสอบภายในห้องพักไม่มีร่องรอยการรื้อค้นหรือต่อสู้ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมพยานหลักฐานไว้ทั้งหมด และที่บริเวณหน้าห้องเลขที่ดังกล่าวพบจักรยานยนต์ของนายไพศาลจอดอยู่ ยี่ห้อยามาฮ่า นุ่นฟีลาโน่ สีแดง ทะเบียนหมายเลข อนม 53 กทม. ที่เกิดเหตุมีบรรดาญาติของผู้เสียหายทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงเดินทางมาดูศพด้วยความเสียใจ
จากการสอบถามนายเสน่ห์ เรืองพานิช อายุ 58 ปี มีศักดิ์เป็นน้าชายของนางอุษา กล่าวว่า ปกตินางอุษามีครอบครัวอยู่แล้ว โดยสามีรับราชการอยู่ที่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา และมีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตเป็นผู้หญิง เรียนอยู่ที่ ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ส่วนคนเล็กเป็นลูกชาย ป.6 อยู่ที่ จ.นครราชสีมา โดยนางอุษาทำงานเป็นแม่ครัวภายในศูนย์อาหารห้างบิ๊กซี สาขาสุขสวัสดิ์ 90 ส่วนผู้ชายที่มาติดพันนางอุษาก็มีครอบครัวแล้วเหมือนกัน ซึ่งไม่ทราบว่าทำงานอะไร แต่มีอายุมากแล้ว และมักจะมาหาหลานสาวตนที่บ้านอยู่บ่อยๆ เท่าที่ทราบผู้ก่อเหตุดังกล่าวได้มาติดพันหลานสาวได้ปีเศษแล้ว
ด้าน ร.ต.ท.อำพรกล่าวว่า เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเหตุดังกล่าวที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นเรื่องของชู้สาว เนื่องจากทราบว่าเบื้องต้นผู้ตายทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างมีครอบครัว มีลูกกันหมดแล้ว ซึ่งฝ่ายชายเป็นฝ่ายที่มาติดพันฝ่ายหญิง แต่ฝ่ายหญิงไม่เล่นด้วย และไม่อยากให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นล่วงรู้ไปถึงสามีจึงพยายามที่จะตีตัวออกห่าง และขอจบสัมพันธ์ที่เคยมีมากกว่า 1 ปี จึงอาจจะทำให้ปัญหาเคลียร์ไม่ลงตัว ฝ่ายชายจึงได้กระหน่ำยิงฝ่ายหญิงจนเสียชีวิต ก่อนที่จะฆ่าตัวเองตายตาม อย่างไรก็ตามจะต้องส่งศพผู้เสียชีวิตให้กับทางสถาบันนิติเวชตรวจพิสูจน์อย่างละเอียด พร้อมกับเรียกบรรดาญาติของผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง
