ตร.ประเมินปัญหาปราสาทพระวิหาร-แก้ รธน.จุดชนวนก่อม็อบ

สตช.ประเมินประเด็นการเมืองทั้งแก้รัฐธรรมนูญ ปัญหาข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร และการเลิกจ้างหรือปิดโรงงาน จุดชนวนนัดชุมนุมทางการเมืองระลอกใหม่ เผยสถิติอาชญากรรมไตรมาสสุดท้ายปี 55 รับแจ้งคดีเพิ่มขึ้น 579 คดี

วันนี้ (8 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร. แถลงถึงสถานการณ์การเคลื่อนไหวในการชุมนุมว่า ในรอบ 3-6 เดือนนี้ที่ประชุมได้วิเคราะห์สถานการณ์การชุมนุมพบว่ามีเรื่องที่เป็นประเด็นในการชุมนุมเกิดขึ้น 3-4 เรื่อง ทั้งเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ปัญหาข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร และการเลิกจ้างหรือปิดโรงงาน ทั้งนี้ ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมาตั้งแต่ ต.ค.-ธ.ค. 55 ที่ประชุม ศปก.ตร.มีการวิเคราะห์สถานการณ์เรื่องการชุมนุม พบว่า ในรอบ 3 เดือนมีตัวเลขการชุมนุม 663 ครั้ง เป็นเรื่องเกี่ยวการเมือง 264 ครั้ง และเรื่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจ 399 ครั้ง โดยพื้นที่ที่มีสถิติร้องเรียนมากที่สุด ได้แก่ นครบาล มีการชุมนุมทั้งหมด 218 ครั้ง เป็นเรื่องการชุมนุมทางการเมือง 107 ครั้ง เรื่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจ 111 ครั้ง รองลงมาคือ ภูธรภาค 4 มีการชุมนุมทั้งหมด 77 ครั้ง เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมือง 36 ครั้ง เรื่องเศรษฐกิจ 41 ครั้ง และภูธรภาค 8 มีเรื่องร้องเรียน 71 ครั้ง เป็นเรื่องการเมือง 14 ครั้ง และเรื่องเศรษฐกิจ 57 ครั้ง

ด้าน พ.ต.อ.อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษก ตร. แถลงถึงสถิติสภาพอาชญากรรมว่า ที่ประชุม ศปก.ตร.ได้มีการรายงานสภาพอาชญากรรมในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค. 55 มีคดีอาญากรรมอุกฉกรรจ์ ชีวิตและร่างกาย และความผิดต่อทรัพย์ รับแจ้ง 19,277 คดีจับกุมได้ 8,860 คดี คิดเป็นร้อยละ 45.96 โดยเป็นการรับแจ้งเพิ่มขึ้น 579 คดี สำหรับรายละเอียดกลุ่ม รับแจ้ง 1205 คดี จับได้ 723 คดี กลุ่มชีวิตและร่างกาย รับแจ้ง 6,446 คดี จับได้ 3,406 คดี และกลุ่มความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ รับแจ้ง 12767 คดี จับได้ 5462

พ.ต.อ.อนุชากล่าวอีกว่า คดีความผิดเกี่ยวกับอุกฉกรรจ์ และชีวิตและร่างกาย มักเกิดขึ้นในช่วงเวลา 18.00-24.00 น. มีสาเหตุมาจากการเมาสุรา ส่วนความผิดเกี่ยวกับทรัพย์นั้น พื้นที่เกิดเหตุส่วนใหญ่อยู่ในเขตเมืองทางเศรษฐกิจ ปัญหาสาเหตุเพราะปริมาณผู้ต้องขังที่พ้นโทษเพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มจะกลับมาทำผิดอีก ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยกับคนบางกลุ่ม นอกจากนี้ การที่ไทยมีการท่องเที่ยวที่ดีต่างชาติมาเที่ยวไทย มีแนวโน้นเกิดอาชญากรรมขึ้นในแหล่งท่องเที่ยว ในส่วนนี้ตร.จึงได้วางมาตรการเพิ่มความเข้มในการป้องกันปราบปราม โดยการระดมแก้ไขปัญหาจะสังเกตได้กลุ่มที่รัฐเป็นผู้เสียหาย มีการจับกุม 124,764 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้ 147,494 คน

“นอกจากนี้ มีคดีความผิดเกี่ยวกับประทุษร้ายต่อทรัพย์ที่ทำการไปรษณีย์ ซึ่งพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.มีความห่วงใย จึงสั่งการให้ทุกหน่วยปฏิบัติเพิ่มความเข้มในการวางระบบป้องกันอาชญากรรมที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่ง โดยเฉพาะพื้นที่ชุมชนและพื้นที่ล่อแหลม และให้ประชาสัมพันธ์ทำการกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยเบื้องต้น เช่น การควบคุมการจำกัดทางเข้าออก การติดกล้องทีวีวงจรปิด โดย ตร.จะประสาน ผอ.ใหญ่ถึงมาตรการดังกล่าวอีกครั้ง