รถเมล์สาย 13 ตกหล่มใกล้แยกเพลินจิต แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บ เผยสาเหตุเกิดจากท่อประปาพีวีซีใต้พื้นถนนแตก น้ำไหลกัดเซาะดินทรายจนถนนทรุดตัว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ประสานรถยกและซ่อมแซมจุดที่เกิดเหตุ คาดเสร็จเรียบร้อยเย็นนี้
วันนี้ (1 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ร.ต.ต.มาโนช สุขโชติ รอง สว.จร.สน.ลุมพินี รับแจ้งเหตุถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ โดยมีรถประจำทางตกหล่ม บริเวณข้างอาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานเพลินจิต ถนนวิทยุขาเข้าก่อนถึงแยกเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานรถยก เจ้าหน้าที่ ขสมก. และเจ้าหน้าที่การประปานครหลวง
ที่เกิดเหตุเป็นพื้นผิวถนน 5 เลน บริเวณเลนซ้ายสุดก่อนถึงแยกดังกล่าว พบรถประจำทาง ขสมก.สาย 13 ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีครีมแดง หมายเลขทะเบียน 11-9379 กรุงเทพมหานคร เลขข้างรถ 4-80369 วิ่งระหว่างคลองเตย-ห้วยขวาง จอดอยู่ บริเวณล้อหลังทั้งสองข้าง ตกหล่มลงไปในร่องถนน ซึ่งได้ทรุดตัวลงไป กว้างประมาณ 1 เมตร ยาว 3 เมตร และลึกกว่า 1 เมตร ทำให้รถไม่สามารถขยับได้ ทั้งนี้ช่วงเกิดเหตุมีผู้โดยสารที่อยู่บนรถกว่า 10 ราย ต่างตื่นตกใจ และรีบวิ่งลงจากรถแต่ไม่มีผู้ใดได้รับอันตรายจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
จากการสอบสวนนายชูศิลป์ ถิ่นจันทร์ อายุ 44 ปี โชเฟอร์รถคันดังกล่าวเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถออกจากอู่คลองเตย โดยรับผู้โดยสารระหว่างทางประมาณ 10 คน เพื่อจะมุ่งหน้าไปย่านห้วยขวาง ขณะที่รถขับผ่านจุดดังกล่าวก่อนถึงแยกเพลินจิตเพียง 10 เมตร จากนั้นก็ได้ยินเสียงพื้นถนนแตกดังสนั่นจากนั้นล้อหลังทั้ง 2 ข้างก็ติดหล่ม ตอนแรกคิดว่ารถตกหลุมธรรมดา เลยพยายามเร่งเครื่องให้พ้นแต่ไม่สามารถเดินหน้าหรือถอยหลังได้ จึงลงไปตรวจสอบพบว่าเป็นเหตุถนนทรุด จึงตัดสินใจโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และประสาน ขสมก.ต้นสังกัดให้ทราบเพื่อหาทางแก้ปัญหา
นายสัมฤทธิ์ กันภัย อายุ 55 ปี รปภ.ของธนาคารกรุงศรี ฯ กล่าวว่า ช่วงเวลาประมาณ 08.00 น.ที่ผ่านมา ตนสังเกตเห็นน้ำประปาไหลออกมาจากตะแกรงระบายน้ำใต้บาทวิถีจุดดังกล่าว ขณะที่มีน้ำบางส่วนพุ่งออกมาจากใต้พื้นถนนพร้อมทรายกรวดจำนวนหนึ่ง แต่ไม่ได้เอะใจอะไรคิดว่าเป็นเหตุท่อประปาใต้พื้นดินแตก คิดว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบจะมาซ่อมแซมเอง กระทั่งมีคนบอกว่ารถประจำทางติดหล่มจึงรีบออกมาดู คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องของท่อประตาแตกทำให้น้ำกัดเซาะดินทรายใต้พื้นถนนจนทรุดตัว
ด้านนายสำเริง ทองศิริ อายุ 47 ปี ตำแหน่งนายช่าง 3 การประปานครหลวง สาขาแม้นศรี ซึ่งเดินทางมาพร้อมช่างหน่วยซ่อม เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบปัญหาท่อประปาพีวีซี พลาสติก ขนาด 12 นิ้ว หรือ 300 ซีซี แตกอยู่ใต้พื้นถนนจนทำให้เกิดเรื่องขึ้น ซึ่งท่อดังกล่าวเป็นท่อที่วางมาได้ประมาณ 5-6 ปีแล้ว หลังจากนี้จะต้องทำการปิดวาล์วน้ำและเร่งทำการสูบน้ำที่ขังอยู่ในหลุมออกให้หมด ก่อนทำการซ่อมแซมท่อจุดที่เกิดปัญหาและรีบนำหินกรวดมาถมทับเพื่อให้ถนนพร้อมใช้งาน คาดว่าทุกอย่างจะเสร็จเรียบร้อยภายในเย็นวันนี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการติดต่อรถยกจากศูนย์ซ่อมเร่งด่วน ขสมก.และหน่วยช่างของการประปานครหลวง มาช่วยกันลากรถขึ้นจากหล่ม จากนั้นจะเร่งซ่อมแซมสภาพถนนให้สมบูรณ์ก่อนจะถึงวันพรุ่งนี้ (2 ม.ค.) หลังจากเป็นวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556
