เก็บตกโยกย้าย! หลายคนหาโรงพักไม่เจอ

ตรงเป้า
ศรรามา

วันสุกดิบคริสต์มาส 24 ธันวาคม ก.ตร.ประชุมนัดสุดท้ายของปี 2555 ด้วยเหตุว่าช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ตำรวจต้องรับภาระหนัก ไหนๆ รองนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ก็มาเป็นประธานประชุม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.เลยจัดคิวนำสีกากีหัวแถว มอบแจกันดอกไม้ขนาดใหญ่ให้ ร.ต.อ.เฉลิม ก่อนประชุม ก.ตร.

ใครที่เห็นภาพอวยพรปีใหม่ในวันนั้น จะคิดอย่างไรก็สุดแล้วแต่ใจคิด พล.ต.อ.อดุลย์ ยกมือไหว้กล่าวคำอวยพร โดยมี พลตำรวจเอก พลตำรวจโท ยืนเป็นแถวเป็นแนวตามลำดับยศ “พนมมือแต้” ตามผู้นำองค์กร

ร.ต.อ.เฉลิม ยืนสงบนิ่ง ในใจจะคิดอะไรไม่มีใครรู้ แต่ถ้าให้เดาคงไม่ยาก คงอิ่มเอิบในบุญบารมีที่ทำไว้ในปางก่อน ชาตินี้จึงมีอำนาจวาสนาล้นฟ้าล้นดิน มียศแค่ร้อยตำรวจเอก แต่บรรดานายพลสีกากีต้องยกมือวันทาเป็นดอกเห็ด และอาจคิดเลยเถิดเตลิดเปิดเปิง เราก็ตำแหน่งใหญ่โตมโหฬารขนาดนี้ คุมตำรวจหลายแสนทั่วประเทศ ทำไมไม่มีใครคิดทำเรื่องเลื่อนยศให้ตัวเองเป็น “นายพล” บ้างหนอ แต่พอคิดไปถึงเจ้านายที่ยังมียศพันตำรวจโทนำหน้า ขี้ข้าอย่างร้อยตำรวจเอกก็ต้องคลายความอยากเป็นนายพลทันที

ไม่มีอะไรแปลกประหลาดหรอก มันเป็นเรื่องปกติเป็นธรรมเนียมของผู้น้อยที่มีต่อผู้ใหญ่ และพึงมีต่อผู้บังคับบัญชา อย่าว่าแต่ ร.ต.อ.เฉลิมเลย ถ้า จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ เป็นรองนายกรัฐมนตรี ได้คุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บรรดานายพลก็ต้องโค้งคำนับ สองมือวันทาจ่าเสื้อแดงคนนี้เหมือนกัน

ประชุม ก.ตร.เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2555 ถกกันเรื่องอำนาจการแต่งตั้งโยกย้ายระดับรองผู้บังคับการลงไปถึงสารวัตร ไม่รู้ ก.ตร.คนไหนสงสัยและเสนอต่อที่ประชุม ทำไมผู้บังคับการหน่วยอื่นถึงไม่มีอำนาจแต่งตั้ง แต่ที 6 หน่วยงานระดับกองบังคับการ ขึ้นตรงต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้บังคับการถึงจัดการแต่งตั้งโยกย้ายได้เอง มีสำนักงานเลขานุการตำรวจ สำนักงานคณะกรรมการ ก.ตร.กองบินตำรวจ กองการต่างประเทศ กองสารนิเทศ และกองวินัย

ปรากฏว่า อำนาจของผู้บังคับการทั้ง 6 หน่วยงาน กำหนดไว้ชัดแจ้งในพระราชบัญญัติตำรวจ ถุทธศักราช 2547 ยึดปฏิบัติมา 8 ปี ก.ตร.คนที่สงสัยก็เป็นตำรวจ ต้องไปอ่านพระราชบัญญัตินี้ให้ละเอียด เพิ่มพูนความรู้ให้แก่ตัวเอง

กล่าวถึงการแต่งตั้งโยกย้ายในระดับนี้ที่ผ่านมา ปรากฏว่า คำสั่ง “ตำรวจภูธร 4” อีสานเหนือของผู้บัญชาการ พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ เละเทะมากที่สุด เป็นคำสั่งที่ 2360/2555 ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2555 มาดูกันว่าเละเทะอย่างไร

ลำดับที่ 60 พ.ต.ท.วยชราฐณ์ เบญจณรงค์รัตน์ ผกก.ฝ่ายปกครองและการฝึก ศูนย์ฝึกอบรม ภ.4 เป็น ผกก.สภ.นาแห้ว จว.เลย และลำดับที่ 91 พ.ต.ท.ชาลี เรียนถาวร รอง ผกก.ป.สภ.เฝ้าไร่ จว.หนองคาย เป็น ผกก.สภ.นาแห้ว จว.เลย

ลำดับที่ 109 พ.ต.ท.จ้กรพันธ์ จันหาญ รอง ผกก.สส.สภ.นาเชือก จว.มหาสารคาม เป็นรอง ผกก.สส.สภ.โพนสวรรค์ จว.นครพนม และลำดับที่ 220 พ.ต.ท.วิชัย จุลลนันท์ สว.สภ.โคกสี จว.นครพนม เป็นรอง ผกก.สส.สภ.โพนสวรค์ จว.นครพนม

ย้ายสองคนไปอยู่ตำแหน่งเดียวกันโรงพักเดียวกัน ระดับรองผู้กำกับการไม่ใช่สารวัตร ไม่น่าจะเกิดความผิดพลาดได้ เพราะมีการตรวจทานจากฝ่ายอำนวยการ 1 ของภาค แต่นี่ พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ดันลงชื่อรับรองความถูกต้องเอง ไม่โทษผู้บัญชาการแล้วจะให้ไปโทษใคร

ลำดับที่ 82 พ.ต.อ.สุริเดช วรรณสุทธิ์ ผกก.สภ.สุวรรณภูมิ จว.ร้อยเอ็ด เป็น ผกก.สภ.กุสุมาลย์ จว.กาฬสินธุ์ ลำดับที่ 113 พ.ต.ท.ชนากานต์ ชำนาญ รอง ผกก.ป.สภ.ปากชม จว.เลย เป็นรอง ผกก.สส.สภ.ศรีสมเด็จ จว.กาฬสินธุ์ และลำดับที่ 299 พ.ต.ต.ปณสิทธิ์ ฤทธิรงค์ สว.อก.สภ.บ้านกลาง จว.นครพนม เป็น สว.สส.สภ.ยางสีสุราช จว.กาฬสินธุ์

ไม่รู้ว่าทั้ง 3 นายป่านนี้หาโรงพักเจอหรือยัง เพราะ สภ.กุสุมาลย์ อยู่จังหวัดสกลนครไม่ใช่จังหวัดกาฬสินธุ์ สภ.ศรีสมเด็จ อยู่จังหวัดร้อยเอ็ด ส่วน สภ.สมเด็จอยู่จังหวัดกาฬสินธุ์ และ สภ.ยางสีสุราช อยู่จังหวัดมหาสารคาม ไม่ใช่จังหวัดกาฬสินธุ์ ไม่อยากปรามาสอะไรหรอก แต่งานแค่นี้งานของพวกตัวเองแท้ๆ ยังฉีกหน้าตัวเอง แล้วงานอื่นๆ เพื่อประชาชน มิยิ่งไปกันใหญ่หรือ

เก็บตกโยกย้ายเที่ยวนี้ อยู่ที่ สภ.เมืองพัทยา เมืองหลวงภาคตะวันออก คงจำกันได้เรื่องตำรวจสืบสวนจังหวัดชลบุรี ไปจับบ่อนการพนันรายใหญ่ที่ว่ากันว่าเป็นของคนที่เรียกตัวเองว่า “สื่อมวลชน” และคนมีสีหนุนหลังอยู่

ตำรวจไม่ได้เขียนบันทึกจับกุมในบ่อน แต่คุมตัวนักพนันร่วมร้อยมาที่โรงพักพัทยา เอาขึ้นไปบนชั้น 2 เขียนบันทึกจับกุมที่นั่น ผ่านไปไม่กี่นาทีไฟฟ้าบนโรงพักก็ดับพรึบ นักพนันที่ยังไม่ได้บันทึกชื่อเป็นผู้ต้องหา เผ่นหนีจากโรงพักต่อหน้าต่อตาตำรวจ ไม่ต้องถามว่าใครเป็นคนปิดสวิทช์ไฟฟ้า ถ้าไม่ใช่ตำรวจแล้วใครจะหาญกล้าทำระยำบนโรงพัก

ก็นี่แหละเป็นสาเหตุหนึ่ง ทำให้ พล.ต.ต.จำนง รัตนกุล ผู้การชลบุรี ถูกเด้งไปเป็นผู้การจเรตำรวจ 1 ส่วน พ.ต.อ.ธรรมนูญ มั่นคง ผกก.เมืองพัทยา เพิ่งย้ายเที่ยวนี้ ไปเป็น ผกก.สภ.มะขาม จันทบุรี

ใครมาเป็นผู้กำกับพัทยาต้องยอมรับว่า “นายแน่มาก” ตอนที่ พ.ต.อ.ธรรมนูญ ลอยละลิ่วจากนครพนม มาเป็นผู้กำกับพัทยาแทน พ.ต.อ.นันทวุฒิ สุวรรณละออง หลายต่อหลายคนคิดว่าเป็นลูกน้อง พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการภูธร 2 สมัยนั้น เพราะ พล.ต.ท.ปัญญาเคยเป็นรองผู้บัญชาการภูธร 4

ที่ไหนได้ กลุ่มเสื้อแดงพัทยาเป็นคนอุ้ม พ.ต.อ.ธรรมนูญ เหาะข้ามน้ำข้ามป่ามาอยู่ชายทะเล เพราะเสื้อแดงพัทยาแรงฤทธิ์เหลือหลาย อาศัยปากนักโทษหนีคุกสั่งมายังพี่เมีย กลุ่มเสื้อแดงก็เลี้ยงต้อนรับ พ.ต.อ.ธรรมนูญ อย่างมโหฬาร

ตอนนี้ได้ผู้กำกับพัทยาตนใหม่ พ.ต.อ.กิตติ์ธเนศ เชี่ยวนาวินธวัช ชื่อเดิม “สุทธินันท์” เป็น ผกก.ฝอ.4 บก.อ ก.ภ.1 ไม่ใช่คนเสื้อแดงเอามา แต่เป็นคนสนิทของ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ.2 คนปัจจุบัน

ย้อนกลับไปในที่ประชุม ก.ตร.นัดส่งท้ายปีเก่า ก.ตร.รับหลักการของ พล.ต.อ.ชาญชิต เพียรเลิศ ก.ตร. เรื่องสมรรถนะของหัวหน้าโรงพัก ต้องมีคุณสมบัติหลักอย่างไรบ้าง และต้องมีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะโรงพักสำคัญ อย่างเช่น โรงพักเมืองพัทยา

หลักเกณฑ์หรือสมรรถนะของหัวหน้าโรงพัก จะเริ่มใช้ในการแต่งตั้งต้นปี 2556 และหวังว่าคงไม่มีคำสั่งแต่งตั้งแบบตำรวจภูธร 4 อีก