กระแสข่าวเรื่องมีการลักลอบเปิดบ่อนการพนันถูกเปิดเผยออกมาเป็นระยะ ที่เป็นข่าวคึกโครมหน่อยก็เห็นจะเป็นกรณีที่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย เอาไปแฉในสภาฯเป็นประเด็นวิวาทะกับ “ขวานฟ้าหน้าดำ” รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลตำรวจถึงกับท้าสาบานกันว่าไม่มีการลักลอบเปิดบ่อนอย่างแน่นอน
เรียกว่าสองคนนี้ ไม่ใครก็คนหนึ่งแหละที่ “ตอแหล” กลางสภาฯ
แต่ดูแล้วมันน่าจะเป็นคนหลังเสียมากกว่า!
คำสาบงสาบานมันไม่ได้ช่วยอะไรให้จิตสำนึกดีในตัวนักการเมืองไทยให้มัน “รู้ผิดชอบชั่วดี” ขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย
“มันยังแถไปอย่างหน้าด้านๆ ไม่เกรงกลัวคำสาบานจะย้อนกลับมาลงโทษตนเองและครอบครัวให้วินาศฉิบหาย! ไปตามคำสาบานของตนเองต่างๆ นานา”
ต้องบอกก่อนเลยว่า คนไทยเป็นประเภท “ชอบลุ้น-ชอบวัดดวง” การพนันมันจึงอยู่คู่กับสังคมไทยมาเนิ่นนานจนแยกแทบไม่ออก ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันก็ยังมีอยู่ เพียงแต่ว่า “การเปิดบ่อนการพนัน” มันมีการส่งส่วยเป็นจำนวนมหาศาลให้กับตำรวจท้องที่ไปจนถึงนักการเมืองระดับประเทศ
“ตาสีตาสา” คงไม่มีปัญญาไปเปิด “บ่อนการพนัน” ได้!
เรียกว่าคนจะเปิด บ่อน ต้องเคลียร์พื้นที่ให้โปร่งเสียก่อนจึงจะเปิดได้
และต้องได้รับการไฟเขียวจาก หัวหน้าตำรวจ ในพื้นที่นั้นๆ เสียก่อน
จะเคลียร์แต่ “ท้องที่” ก็ไม่ได้ เพราะหน่วยอื่นจะเข้าไปจับกุม
“เจ้าพ่อ-เจ้าแม่”จึงต้องส่ง “ส่วย” เลี้ยงดูเจ้าหน้าที่ให้ทั่วถึงไล่เรียงตั้งแต่ “โรงพัก-บก.น.-กองปราบฯ-191” เพื่อป้องกัน “นักบิน” เข้าไปโฉบเฉี่ยวรับผลประโยชน์
ต้องบอกว่าหากไม่เจอด้วยตาตนเองคงไม่มีทางเชื่อว่ายุคสมัยนี้ที่คนไทยเรามีนายกรัฐมนตรีหญิงเป็น “ผู้นำประเทศ” คนแรก จะเป็นยุคที่ “ผู้หญิง” เป็นใหญ่จริงๆ
เพราะวันก่อน “ตระเวนข่าว”ดอดเข้าไปเปิดหูเปิดตาในงาน “ปาโป่ง-ปาเป้า” ที่จัดขึ้นบริเวณหน้าตลาดปัฐวิกรณ์ ของ สน.บึงกุ่ม และพื้นที่โครงการไดมอนสแควร์ ภายในซอยโชคชัย 4 ของ สน.โชคชัย ในพื้นที่ความรับผิดชอบของ บก.น.4 เจอจะจะด้วยตนเอง ภายในงานมีการเปิดให้มีกิจกรรม การปาโป่ง-ปาเป้า เพื่อเอารางวัลจากผู้จัดที่เอาตุ๊กตาราคาต้นทุนตัวละไม่ถึงร้อยบาท มาวางล่อตาล่อใจชาวบ้านให้เกิดความอยากได้ ด้วยการ “เสี่ยงโชควัดดวง-วัดฝีมือ” ในการปาลูกดอกใส่ลูกโป่งให้แตกให้ครบ 5 ลูก/20 บาท ต่อครั้ง หากแตกครบก็จักได้ “ตุ๊กตา” หรือของรางวัลต่างๆ เป็นสิ่งตอบแทน
เรื่องการปาโป่ง-ปาเป้า หรือแม้กระทั่งกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นภายในงานกาชาดตามจังหวัดต่างๆ เอาเข้าจริงๆ มันก็ถือว่าผิด พ.ร.บ.การพนันฯ อยู่แล้ว แต่อยู่ในช่วงเทศกาลก็มีการอนุโลมกันบ้างเพื่อความสังสรรค์รื่นเริงบันเทิงใจของชาวบ้าน
เราคงไม่ไปตำหนิติเตียนอะไรมากมาย
แต่สิ่งที่ทนเห็นไม่ได้เลยเพราะมันเป็นการหยามกฎหมายแล้วตอกย้ำความย่ำแย่ของกระบวนการยุติธรรมไทยที่มี “เจ้าหน้าที่ตำรวจ” เป็นผู้ดูแลและรักษาเบื้องต้น
กับการเปิดให้มีการเล่นการพนันในงานปาโป่ง-ปาเป้าอย่างโจ๋งครึ่มไม่เกรงกลัวกฎหมายและเจ้าหน้าที่บ้านเมือง มีบรรดาหน้าม้าออกมาเล่นการพนันเพื่อชักจูงใจชาวบ้านให้เข้ามาเล่นเป็นจำนวนมมาก มีการวางเงินเดิมพันขันต่อในราคาสูงวางแบงก์ห้าร้อยแบงก์พัน เพื่อล่อใจให้ชาวบ้าน
วิธีการเล่นก็มีต่างๆ นานา ในที่นี้ผู้เขียนขอเรียกว่า “ไทยรูเลตต์” ละกัน
มีการตั้งโต๊ะต่างๆ กระจายเป็นซุ้มๆ ภายในงานมีชายหญิงห้อมล้อมส่งเสียลุ้นดังตามอารมณ์ซึ่งในที่นี้เชื่อว่ามีหน้าม้าผสมโรงอยู่เกินกว่าครึ่งหนึ่งแน่นอน
3-8 การพนันชนิดหนึ่งที่นำมาเล่นและกอบโกยเงินจากคนจนได้อย่างเป็นล่ำเป็นสัน ด้วยการนำเหรียญกลมๆ มาเขียนตัวเลขด้านหนึ่ง 3 อีกด้านหนึ่ง 8 แล้วหมุนเมื่อใกล้ที่เหรียญจะหยุดลงมันรจะเห็นสลับระหว่าง 3 และ 8 นักพนันจึงลงเงินเดิมพันในวงนี้าค่อนข้างมากเพราะลง 1,000 บาท จ่าย 1,000 บาท เรียกว่าเงินรางวัลเท่าตัวทีเดียวและได้เสียมีแค่สองประตูเท่านั้น
สูง-ต่ำ เป็นการเขียนตัวเลขต่างๆ ไว้บนโต๊ะ แล้วมีเข็มลูกศรหมุนเป็นวงกลมบนโต๊ะ หากเข็มลูกศรไปชี้ลงที่เลขใดผู้นั้นจะเป็นฝ่ายชนะและได้รับเงินรางวัลเท่าตัวเช่นกัน
และ “ลูกแก้วมหาโชค” มีการทำช่องลู่ให้ลูกแก้วไหลไปตามช่องต่างๆมากมาย วิธีการเล่นคือให้เจ้ามือโยนลูกแก้วลงมาจากด้านบนให้ลูกแก้ววิ่งลงด้านล่างตามแรงโน้มถ่วงเมื่อเข้าช่องเลขใดผู้ที่วางเงินเดิมพันในช่องนั้นจะเป็นผู้รับเงินรางวัลแบบเท่าตัวเช่นกัน
ชาวบ้านจูงลูกเล็กเด็กแดงออกมาหาความบันเทิงใจกลับบ้าน กับได้ “ภาพผู้ใหญ่ตั้งวงเล่นการพนัน” เก็บไว้ในความทรงจำไปตลอดชีวิตเป็นการป้อนข้อมูลให้เด็ก ๆ ได้ซึมซับว่า การพนัน ไม่ใช่เรื่องที่ผิดแต่อย่างใด?
เห็นแล้วอดสูจริงๆ เพราะภาพที่เห็นดันมีตำรวจนอกเครื่องแบบบางนายไปคอยดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ด้วย ต้องบอกว่า “เส้นใหญ่” จริงๆ คงต้องฝาก พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ไปถาม พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบก.น.4 ไล่ลงไปถึง พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ ผกก.สน.บึงกุ่ม และ พ.ต.อ.ธนวัตร วัฒนกุล ผกก.สน.โชคชัย ว่าปล่อยให้มี “บ่อนไทยรูเลตต์ ของ “เจ๊มาลัย” ในพื้นที่ได้อย่างไร?!
“เจ๊มาลัย” เป็นเจ้าแม่วงการปาโป่ง-ปาเป้า เส้นไม่ใหญ่จริงคงไม่มีปัญญาเปิดปาโป่ง-ปาเป้าที่มีการเล่นการพนันแอบแฝงทั่วประเทศไทย
หรือมันมีอะไรบังตาตำรวจอยู่??!!
จักรนารายณ์
