ยายวัย 72 ปีดับปริศนา ตำรวจคุมตัวลูกชายขี้เมาสอบ เจ้าตัวอ้างแม่เป็นลมล้มหัวฟาดพื้นเสียชีวิต ส่วนพี่ชายไม่เชื่อเพราะน้องเมาแล้วชอบทำร้ายทุบตีแม่เป็นประจำ ด้านตำรวจเผยว่าต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอจากเศษเนื้อในเล็บของผู้ตายอีกครั้งว่าตรงกันกับผู้ต้องสงสัยหรือไม่
วานนี้ (22 ธ.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ร.ต.ท.พิเศษศักดิ์ ขำทอง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี สาขาย่อยรัตนาธิเบศร์ รับแจ้งเหตุมีคนเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 10 ถ.เลี่ยงเมืองนนทบุรี ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์จากสถาบันนิติเวช เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
เมื่อถึงบ้านหลังดังกล่าวเจ้าหน้าที่พบศพนางนวลจันทร์ เครือจันทร์ อายุ 72 ปี เจ้าของบ้านนอนเสียชีวิตอยู่ที่เตียงแคร่ไม้ไผ่โดยมีสำลีอุดจมูกทั้งสองข้าง ใกล้กันพบนายครรชิต เครือจันทร์ อายุ 39 ปี ลูกชายผู้ตายกำลังนั่งดื่มสุรากับกลุ่มเพื่อนประมาณ 6-7 คน ซึ่งภายในกลุ่มมีพระสงฆ์นั่งร่วมวงอยู่ด้วย โดยนายครรชิตให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าแม่ของตนเป็นลมล้มหัวฟาดพื้นเสียชีวิตเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงจดบันทึกคำให้การของนายครรชิตก่อนจะมอบให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำศพส่งพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวชเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป
ต่อมานายเจนศักดิ์ ริศนาเคน เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต๊กตึ๊งได้นำศพผู้ตายมาที่โรงพักเพื่อทำการพิมพ์ลายนิ้วมือและสังเกตเห็นว่าบริเวณลำคอของผู้ตายมีรอยเขียวช้ำเหมือนถูกบีบคอ และตามร่างกายก็มีรอยฟกช้ำเหมือนโดนทำร้ายจนเสียชีวิต จึงได้โทรศัพท์ติดต่อไปหานางจริยาพร เครือจันทร์ 55 ปี ลูกสะใภ้ผู้ตายตามที่เพื่อนบ้านของผู้ตายคนหนึ่งให้เบอร์ไว้ พร้อมทั้งเล่าสภาพบาดแผลของผู้ตายให้ฟังอย่างละเอียด จนกระทั่งนางจริยาพรเดินทางมาดูศพที่โรงพัก เมื่อเห็นศพผู้ตายถึงกับร้องไห้เข้าไปกอด ก่อนจะเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้จับตัวนายครรชิต เนื่องจากเชื่อว่าแม่สามีถูกนายครรชิตทำร้ายจนเสียชีวิตไม่ด้ล้มหัวฟาดพื้นอย่างแน่นอน
นางจริยาพรกล่าวว่า ตนเพิ่งทราบเรื่องเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิว่าแม่สามีเสียชีวิต จึงได้รีบเดินทางกลับจากต่างจังหวัดพร้อมสามีเพื่อมาดูศพแม่เมื่อมาถึงโรงพัก เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ชี้ให้ดูรอยฟกช้ำบริเวณลำคอและตามร่างกายอีกหลายแห่ง พอเห็นบาดแผลก็รู้ทันทีว่านายครรชิต น้องสามีเป็นคนทำร้ายแม่จนเสียชีวิตอย่างแน่นอน เพราะเมื่อคืนก่อนได้มีเพื่อนบ้านที่อยู่บ้านติดกันโทรศัพท์มาบอกตนเองว่าได้ยินเสียงแม่สามีร้องขอความช่วยเหลือ
ด้านนายสายชล เครือจันทร์ อายุ 44 ปี ลูกชายคนรองของผู้ตายกล่าวทั้งน้ำตาว่า แม่มีลูกชายทั้งหมด 5 คน นายครรชิตเป็นลูกคนที่ 4 และเป็นลูกคนเล็กเนื่องจากลูกชายคนที่ 5 เสียชีวิตไปนานแล้ว ทำให้แม่รักนายครรชิตมากเพราะสงสารที่นายครรชิตถูกลูกและภรรยาทิ้งไปเมื่อไม่นานนี้เพราะรับไม่ได้เวลานายครรชิตเมาเหล้าแล้วอาละวาดซ้อมลูกกับเมียเป็นประจำ จนนายครรชิตต้องอยู่บ้านตัวคนเดียว หลังจากนั้นพอนายครรชิตเมาก็จะโวยวายด่าทอแม่ตลอดหาว่าแม่เป็นคนไล่ลูกกับเมียของเขาไป และช่วงหลังทราบจากเพื่อนบ้านว่านายครรชิตเริ่มทำร้ายร่างกายแม่เวลาเมา ตนพยายามจะมารับแม่ไปอยู่ด้วยกันแม่ก็ไม่ยอม บอกว่าเป็นห่วงนายครรชิตกลัวไม่มีคนดูแลหาข้าวให้กิน จนแม่มาเสียชีวิตดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายครรชิตไว้สอบสวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานทำการเก็บรอยนิ้วมือแฝงในบ้านที่เกิดเหตุและเก็บเศษเนื้อในเล็บของผู้ตายไปตรวจสอบดีเอ็นเอว่าตรงกับนายครรชิตหรือไม่ เนื่องจากมีพยานยืนยันว่านายครรชิตเป็นคนลงมือทำร้ายร่างกายนางนวลจันทร์แม่บังเกิดเกล้าจนเสียชีวิต ซึ่งนายครรชิตยังคงให้การวกวนอยู่ตลอดเวลา